ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ชมรมผู้อำนวยการ รพศ./รพท.ร่อนหนังสือแจ้งชะลอจ่ายค่าตอบแทน P4P เหตุครบกำหนด 1 ปี สิ้นสุด 31 มี.ค. ที่ผ่านมา ชี้อยู่ระหว่าง สธ.ประเมิน เชื่อมีข้อดีมากกว่าข้อเสียแน่นอน เสนอ คสช.อนุมัติการจ่ายรอบใหม่ พร้อมของบสนับสนุน เหตุเงินบำรุงไม่พอจ่าย รอบที่ผ่านมารัฐบาลชุดที่แล้วก็สนับสนุนให้ส่วนหนึ่ง   

จากที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีการเดินหน้าหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน (Pay for Performance : P4P) ซึ่งได้เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2556 ภายหลังจากที่ดำเนินการครบ 1 ปี ล่าสุดทางชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ได้ออกหนังสือด่วนที่สุด ที่ ชรพ.๓๐/๒๕๒๗ ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2557 เรื่องชะลอการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 ถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทุกแห่ง ลงนามโดย นพ.สุทัศน์ ศรีวิไล ประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป

โดยข้อความในหนังสือระบุว่า “สืบเนื่องจากการประชุมชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2557 ณ โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา จังหวัดตรัง ในประเด็นการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานและค่าเบื้ยเลี้ยงเหมาจ่ายในระยะที่ 1 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2557 และจะต้องมีการประเมินผลการดำเนินงานโดยคณะกรรมการพิจารณาทบทวนระบบการจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในภาครัฐ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน โดยให้จัดทำข้อสรุปอย่างรอบด้าน ชัดเจน นำเสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีคณะที่ 3 (ฝ่ายเศรษฐกิจ) พิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการในระยะที่ 2 ต่อไปนั้น ที่ประชุมจึงมีข้อสรุปดังนี้

1.ขอให้โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทุกแห่ง เร่งดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานในระยะที่ 1 ให้เป็นปัจจุบัน (31 มีนาคม 2557)

2.ขอให้โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทุกแห่งชะลอการจ่ายค่าตอบแทนผลการปฏิบัติงานตั้งแต่เดือนเมษาบน 2557 เป็นต้นไปไว้ก่อน จนกว่าจะมีความชัดเจนในแนวทางดำเนินการในระยะที่ 2 โดยให้เก็บข้อมูลตามปกติ เมื่อมีความชัดเจนจะได้ดำเนินการเบิกจ่ายได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ นพ.สุทัศน์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า หนังสือฉบับดังกล่าวไม่มีอะไรมาก เนื่องจากการจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงานต้องดำเนินการตามมติ ครม. ซึ่งเมื่อครบ 1 ปี ตามกำหนดแล้ว ทางกระทรวงสาธารณสุขต้องทำการสรุปผลข้อดีข้อเสียเพื่อนำเสนอต่อ ครม.เพื่อนำไปสู่การพัฒนาต่อไป ประกอบกับขณะนี้ยังไม่มี ครม.ทำให้ต้องมีการยืดระยะเวลาการจ่ายเงินค่าตอบแทนนี้ออกไปก่อน ยืนยันว่าเป็นการดำเนินงานตามปกติของระบบราชการ อย่างไรก็ตามได้ขอให้ทางโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทำการเก็บข้อมูลการปฏิบัติงานตามภาระงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายหลังจากที่มีการอนุมัติการจ่ายค่าตอบแทนจะได้ดำเนินการโดยทันที

ต่อข้อซักถามว่า ในระหว่างที่ยังไม่มี ครม.จะดำเนินการอย่างไร นพ.สุทัศน์ กล่าวว่า ทาง สธ.คงส่งเรื่องให้ทาง คสช.พิจารณา เท่าที่ทราบขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งหากทาง คสช.อนุมัติก็สามารถดำเนินการได้ทันทีเช่นกัน เช่นเดียวกับการประเมินข้อดีข้อเสียของการจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงาน ซึ่งยอมรับว่ามีความล่าช้าไปบ้าง เนื่องจากปัญหาบ้านเมืองขณะนี้มีมาก อย่างไรก็ตามผลการประเมินเบื้องต้น ต้องยอมรับว่าไม่ว่าเรื่องอะไรต้องมีข้อดีและข้อเสีย แต่การจ่ายค่าตอบแทนภาระงานมีข้อดีมากกว่าแน่นอน คือ ทำให้ผู้ปฏิบัติงานได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม ใครทำมากได้มาก ใครทำน้อยได้น้อย และยังเป็นการลดความขัดแย้งระหว่างผู้ปฏิบัติงาน เพราะต่างยอมรับในหลักเกณฑ์นี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับงบประมาณที่จะนำมาจ่ายซึ่งนำมาจากเงินบำรุงโรงพยาบาล หากเดินหน้าต่อจะเพียงพอหรือไม่ นพ.สุทัศน์ กล่าวว่า ไม่เพียงพออยู่แล้ว ซึ่งการจ่ายค่าตอบแทนในปีที่ผ่านมา เราได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งจากทางรัฐบาล ซึ่งหากเดินหน้าต่อทาง สธ.ก็คงต้องของบเพิ่มเติมเช่นกัน ซึ่งก็อยู่ระหว่างดำเนินการ ยืนยันว่า การชะลอค่าตอบแทนในครั้งนี้ไม่กระทบขวัญกำลังใจบุคลากรในระบบสาธารณสุขแน่นอน เพราะเป็นเพียงแค่ระเบียบราชการที่ต้องปฏิบัติตามเท่านั้น เชื่อว่าทุกคนต่างเข้าใจดี