ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

แชร์ข้อความว่อนไลน์แวดวงสธ. อ้างชื่อรองปลัดวชิระฝากเผยแพร่ comment ท้ายข่าว ในชื่อ ไม่ยากไร้ไม่มีสิทธ์ฟรี แจง 30 บาทจะเป็นประชานิยมหรือไม่ ไม่ทราบ แต่การให้สิทธิ์รักษาฟรีแก่ทุกคนทั้งยากไร้ และไม่ยากไร้ ไม่เคยบัญญัติในรธน.ฉบับไหน ถ้าคสช.จะให้ฟรีทุกคนก็ให้กำหนดในรธน.ใหม่ด้วย แจงสปสช.ถ้าไม่พอใจบริการสุขภาพของสธ. ก็ไปหาซื้อบริการจากที่อื่นแทน เพราะไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องซื้อจากสธ. แนะคสช.แยกงบเงินเดือนสธ.ออกจากงบรายหัว สปสช.และสธ.ต้องแยกจากกันให้ขาด รมว.และปลัด ไม่ควรเป็นบอร์ดสปสช. เพราะเข้าไปก็เสียงส่วนน้อย บีบสธ.ให้ทำตาม ซื้อบริการสุขภาพราคาถูก แถมขยายสิทธิ์ไม่จบสิ้น 

12 ก.ค. มีรายงานว่าวันที่ 11 ก.ค. ได้มีการ share ข้อความทางไลน์ โดยอ้างว่า “ท่านรองปลัดวชิระ ฝากเผยแพร่” ซึ่งเป็นข้อความของบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “ไม่ยากไร้ไม่มีสิทธิ์ ฟรี” ที่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบหลักประกันสุขภาพที่ได้แสดงความคิดเห็นในข่าวของสำนักข่าว Health Focus  “ย้ำชัด 30 บาทคือรัฐสวัสดิการ จี้คสช.อย่าสร้างความทุกข์ แช่แข็งงบ ผลักภาระร่วมจ่ายให้ประชาชน”  โดยมีการเผยแพร่ใน Facebook page/ประชาคมสาธารณสุขเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ด้วย

ทั้งนี้ข้อความดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้

ชอบใจข้อเขียนของคุณ "ไม่ยากไร้ไม่มีสิทธิ์ ฟรี".....ลอกมาได้แบบนี้>>>>>>

กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานของรัฐ เป็นหน่วยงานราชการ เป็นนิติบุคคล มีภารกิจตามกฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน มีหน้าให้บริการสุขภาพให้แก่ประชาชน.... ต้องมีคนมีข้าราชการ มีการบริหารจัดการ มีเงินงบประมาณที่ชัดเจนเพื่อใช่ในการบริหารและบริการแก่ประชาชนตามภารกิจตามกฎหมาย.... เช่นเดียวกับกระทรวงอื่นๆ

สป.สช.ก็เป็นนิติบุคคล เป็นองค์การมหาชน เป็นหน่วยงานของรัฐ... ที่ไม่ใช่หน่วยราชการ.... ตามกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ..... หน้าที่หลักก็คือซื้อบริการสุขภาพให้แก่ประชาชนคนไทยที่ไม่มีหลักประกันสุขภาพใด ๆ

สองหน่วยงานนี้...คือทั้ง สป.สช.และกระทรวงสาธารณสุขต้องแยกออกจากกันให้ชัดเจนเด็ดขาดในทุกระดับ.... ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขต้องไม่เข้าไปร่วมเป็นกรรมการในบอร์ดชุดใหญ่ของ สป.สช. ...เพื่อแยกผู้ซื้อบริการและผู้ขายบริการสุขภาพออกจากกันอย่างเด้ดขาดเสียที ....มิฉะนั้นแล้ว รมว.สาธารณสุขและปลัด สธ.ก็เป็นได้แค่เสียงส่วนน้อยในบอร์ด สป.สช. ....เข้าไปคอยรับคำสั่งและปฏิบัติตามมติของบอร์ดเสียงส่วนใหญ่ที่เป็นใครมาจากไหนก็ไม่ไม่รู้ ....ใช้อำนาจมติบอร์ดบีบให้กระทรวงสาธารณสุขต้องปฏิบัติตาม.... บังคับซื้อบริการสุขภาพจากกระทรวงสาธารณสุขในราคาถูก ๆ..... และขยายสิทธิกันไปเรื่อย ๆ แบบไม่รู้จบสิ้น

กฎหมายไม่ได้บอกไว้ตรงไหนเลยว่า สป.สช.จะต้องซื้อบริการสุขภาพจากหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น .

หาก สป.สช.ไม่พอใจบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขก็ควรจะไปทำสัญญาตกลงซื้อบริการสุขภาพของประชาชนจากโรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ของกระทรวงศึกษาธิการ หรือโรงพยาบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น.......ซึ่งในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สป.สช.ได้นำเงินค่าหัวของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งกองทุนเกือบทั่วประเทศครบ 100% อยู่แล้ว.....หาเสียงหาเครือข่ายหามวลชนหาพันธมิตรไว้ล่วงหน้าตั้งหลายปีมาแล้วไม่ใช่หรือครับ

สป.สช.ไปง้อกระทรวงสาธารณสุขทำไม ผมไม่เข้าใจ.....ต่างคนต่างมีหน้าที่...ก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ครบถ้วนสมบูรณ์ก็พอแล้ว

เงินงบประมาณหมวดเงินเดือนของข้าราชการสาธารณสุข งบประมาณในการพัฒนาและในการดำเนินการบริหารจัดการให้บริการต่าง ๆ แก่ประชาชนของกระทรวงสาธารณสุข.... รัฐบาลหรือ คสช. ก็ต้องแยกออกมาให้ชัดเจนจากงบประมาณรายหัวของ สป.สช. เช่นเดียวกับกระทรวงศึกษาธิการหรือกระทรวงอื่น ๆ.... สป.สช.ก็ต้องไม่ไปยุ่งเกี่ยว ไปวุ่นวายกับงบประมาณของ สธ. ....แยกออกจากกันให้ชัดเจน อย่าไปนำมาคิดรวมในงบค่าหัวของ สป.สช.อีกเหมือนที่ผ่าน ๆ มา

30 บาทรักษาทุกโรคจะเป็นประชานิยมหรือไม่ก็พิจารณากันเอาเอง แต่...ไม่เคยมีรัฐธรรมนูญไทยฉบับไหนให้สิทธิแก่"ผู้ไม่ยากไร้"ให้ได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลของรัฐฟรี...โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย.... หากรัฐบาลหรือ คสช.จะให้สิทธิรักษาพยาบาลฟรีแก่คนไทยทุกคนทุกระดับ ทั้งผู้ยากร้าย และ"ผู้ไม่ยากไร้"....ก็ขอให้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ชัดเจนด้วย...เพื่อจะได้เป็นตัวอย่างของนิติรัฐ.... ที่รัฐบาลต้องปฏิบัติตามกฎหมายเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป... ไม่ใช่นโยบายประชานิยมอยู่เหนือกฎหมายทุกฉบับ....แม้แต่รัฐธรรมนูญ...เหมือนที่ผ่าน ๆ มา

ด้านนพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดสธ. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า มีผู้แชร์เข้ามาใน facebook ส่วนตัว ซึ่งตนได้ comment ตอบไปว่าเป็นความคิดเห็นที่น่าคิด ยืนยันว่าไม่ได้สั่งการให้ใครเขียนข้อความดังกล่าว และไม่ได้สั่งการให้ใครแชร์ผ่าน social media แต่อย่างใด เพียงแต่บอกว่าเป็นเรื่องที่น่าคิด