ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.ขอให้องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ดูแลโครงการก่อสร้างมูลค่าเกิน 100 ล้าน พร้อมเอกซเรย์ความโปร่งใสการบริหารองค์การเภสัชกรรมและการออกใบอนุญาตของ อย.

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 57 ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมประชุมคณะกรรมการผู้บริหารองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)ครั้งที่ 4/2557 มีผู้แทนจากสมาคมต่างๆ หลายสาขาเป็นคณะกรรมการ ซึ่งการประชุมครั้งนี้คณะกรรมการฯ ได้เชิญนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะเป็น 1 ใน 3 ผู้นำองค์กรผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงสังคม เข้าร่วมประชุมด้วย

นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งดำเนินการสร้างความโปร่งใส ขจัดปัญหาการทุจริตภายในหน่วยงานในสังกัดทั้งส่วนกลางและภูมิภาคให้หมดไป ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่จะให้เห็นผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือนนี้ ในระยะแรกนี้ได้กำหนดเป้าหมายดำเนินการ 3 เรื่องที่มีความสำคัญ ได้แก่ 1. การบริหารงบก่อสร้างอาคารต่างๆ ที่มีมูลค่าก่อสร้างมากกว่า 100 ล้านบาท 2. การจัดซื้อยาเวชภัณฑ์ 5 กลุ่ม ได้แก่ ยา วัสดุทางการแพทย์ วัสดุทันตกรรม วัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์ และวัสดุสำนักงาน ซึ่งเป็นรายการจัดซื้อพื้นฐานเพื่อใช้ในการจัดบริการประชาชนทั่วประเทศ มูลค่าประมาณ 40,000 ล้านกว่าบาท โดยมี 3 ประเด็นย่อย ที่ต้องสร้างความโปร่งใส ได้แก่ การออกระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง ระเบียบการรับการสนับสนุน (Sponsor) และเกณฑ์จริยธรรม และ 3. การแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูง ระดับอำนวยการขึ้นไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยจะประกาศใช้พร้อมกันทั่วประเทศในปีงบประมาณ 2558 เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป และได้ให้ประชาคมสาธารณสุข ซึ่งเป็นตัวแทนจากวิชาชีพต่างๆ ในกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเป็นผู้ตรวจสอบถ่วงดุล (Voice and Watch) เพื่อปกป้องการแทรกแซงทางการเมือง และจะขยายผลในเรื่องต่อไป

นพ.ณรงค์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องการลงทุนก่อสร้าง ซึ่งในปีงบประมาณ 2558 มีประมาณ 13,000 กว่าล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 13 ของงบประมาณ ที่กระทรวงสาธารณสุขได้รับการจัดสรร ได้ขอความร่วมมือองค์กรต่อต้านทุจริตฯ ช่วยดูในเรื่องการกำหนดแบบ และการจัดซื้อจัดจ้างเนื่องจากมีผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญจากสภาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องจากนวนมาก ซึ่งจะมีผลดีทำให้ได้อาคารที่มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน ผู้ใช้บริการและเจ้าหน้าที่ให้บริการมีความปลอดภัย

นอกจากนี้ ยังได้ขอให้คณะกรรมการองค์กรต่อต้านทุจริตฯ ช่วยดูเรื่องการบริหารความโปร่งใสขององค์การเภสัชกรรม ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจแห่งเดียว ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้เป็นที่พึ่งด้านยาของประเทศ รวมทั้งให้ช่วยดูในเรื่องการออกใบอนุญาตต่างๆ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แก่ผู้ประกอบการอาหาร ยา เครื่องสำอาง ให้โปร่งใส ป้องกันการรับผลประโยชน์ใต้โต๊ะ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้องส่งผลในการสร้างเศรษฐกิจประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ยังมีนโยบายส่งเสริมให้โรงพยาบาลในสังกัดที่มีประมาณ 1,000 แห่งทั่วประเทศ ให้เป็นโรงพยาบาลคุณธรรม สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในเรื่องความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ จิตอาสาในรูปของชมรมต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่รับผิดชอบ แต่เป็นประโยชน์แก่สังคม มั่นใจจะเกิดผลอย่างน้อย 4 เรื่อง ได้แก่ความรัก ความสามัคคี การประหยัดลดการสูญเสียทรัพยากร และคุณภาพบริการรักษาพยาบาลดียิ่งขึ้น จะช่วยคลายความทุกข์ สร้างความสุขใจแก่ผู้ป่วย ผู้ใช้บริการทุกคน เป็นบรรทัดฐานของสังคมในเรื่องของการเป็นผู้ให้บริการด้วยความรู้ควบคู่คุณธรรม