ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผอ.รพ.ชุมพวง เผย สารพัดปัญหารุมกินโต๊ะ สธ. เกิดจาก “ปลัด สธ.” ดำเนินนโยบายผูกปมเอง ไม่ใช่เกมการเมือง ภาคประชาชนกำลังทำหน้าที่ตรวจสอบ และวันนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่เอกสารปลอม ยันไม่ใช่กระบวนการเลื่อยขาขึ้น รมว.สธ. แต่มาจากผลกระทบจนเกิดการเคลื่อนไหว ทั้งหนังสือสั่งการพื้นที่งดสังฆกรรม สปสช. เลื่อนประชุมบอร์ด สปสช. และบันทึกการประชุมเสนอร่วมจ่าย พร้อมระบุ หาก ปลัด สธ.ยังคงทิฐิเดินหน้า เชื่อ คสช.คงเข้าไกล่เกลี่ยแก้ปัญหาแทน

นพ.วชิระ บถพิบูลย์

18 ก.ค.57 นพ.วชิระ บถพิบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การออกมาแถลงของ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ออกมาปฏิเสธข้อเสนอการร่วมจ่ายตามการบันทึกการประชุมในการมอบนโยบาย สธ. ที่มี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. คิดว่าเป็นคำตอบสุดท้ายของทาง สธ.ต่อข้อเสนอการร่วมจ่ายว่า ทาง สธ.ไม่มีนโยบายนี้ นับเป็นท่าทีชัดเจน ถือเป็นสัญญาประชาคม และเชื่อว่าในระยะเวลาอันสั้นนี้ทาง สธ.จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้แน่นอน คงทำให้สังคมสบายใจได้

นพ.วชิระ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการบันทึกรายงานการประชุม จากนี้ไป สธ.คงต้องละเอียดรอบครอบกว่านี้  โดยทุกครั้งของการทำบันทึกการประชุม โดยเฉพาะการประชุมทวิภาคี จำเป็นต้องให้มีการตรวจสอบจากทุกฝ่ายที่เข้าร่วมประชุมเพื่อดูความถูกต้องและผลการสรุปว่าเห็นตรงกันหรือไม่ ก่อนที่จะเวียนหนังสือไปยังส่วนต่างๆ ซึ่งทราบว่าบันทึกประชุมฉบับนี้ได้มีการเวียนออกไปในระดับจังหวัดเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งกรณีที่ นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ออกมาระบุว่าเป็นเอกสารปลอมทันทีที่มีการเปิดเผยข้อมุลนั้น ยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องระวัง เนื่องจากเป็นผู้ใหญ่ใน สธ. การจะให้สัมภาษณ์ใดๆ ก็น่าจะทำการตรวจสอบข้อมูลก่อน ไม่ควรออกมากล่าวหาผู้ให้ข้อมูล

“การให้สัมภาษณ์ของรองปลัด สธ.ที่บอกว่า เป็นเอกสารปลอมนั้น เป็นการกล่าวหาผู้ให้ข้อมูล และวันนี้คำพูดนี้ได้มัดตัวผู้พูดเองหลังจากที่มีการตรวจสอบและยืนยันแล้วว่าเป็นเอกสารของทาง สธ.จริง ทาง สธ.เป็นผู้บันทึกเอง การกล่าวหาว่าผู้ให้ข้อมูลใช้เอกสารปลอมนั้นจึงเป็นการกล่าวหาภาคประชาชนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ เชื่อว่าก็คงรับไม่ได้เช่นกัน” ผอ.รพ.ชุมพวง กล่าว  

นพ.วชิระ กล่าวว่า ส่วนที่ปลัด สธ.ระบุว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับ สธ.ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นเกมการเมืองนั้น ต้องบอกว่า การเมืองตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว เหลือแต่ คสช. การจะบอกว่าเป็นเกมการเมืองคงฟังไม่ขึ้น เนื่องจากเรื่องต่างๆ ที่ออกมานี้เกิดจากการดำเนินนโยบายของปลัด สธ.และทีมงานเอง ที่ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งเริ่มมาจากปัญหาภายในองค์การเภสัชกรรม (อภ.) การออกหนังสือส่งไปยังพื้นที่ไม่รวมทำงานกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) การเลื่อนประชุมบอร์ด สปสช. และกรณีบันทึกการประชุมเสนอร่วมจ่ายรักษาพยาบาล ทำให้มีการตั้งคำถามและปัญหาทั้งหมดได้ตีกลับไปที่ สธ.เอง

“การดำเนินนโยบายของปลัด สธ.ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานในระบบสุขภาพ ซึ่งที่เห็นชัดเจนคือการเลื่อนประชุมบอร์ด สปสช.ต่อเนื่อง 2 เดือน ทำให้ไม่สามารถเดินหน้าอนุมัติสิทธิประโยชน์การรักษาต่างๆ ให้กับผู้ป่วยได้ ทำให้เรื่องยังค้างรอการพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นการอนุมัติยารักษามะเร็ง ยารักษาไวรัสตับอักเสบซี และเรื่องอื่นๆ ที่ล้วนแต่กระทบต่อประชาชน และหน่วยบริการ รวมไปถึงกรณีหนังสือสั่งการห้าม สสจ. ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทำงานร่วมกับ สปสช. ที่ทำให้การดำเนินงานโครงการต่างๆ ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณต้องชะงักลง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อระบบ” นพ.วชิระ กล่าวและว่า นโยบายปลัด สธ.ที่ออกมาในช่วงที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังขัดต่อนโยบายของ คสช. ที่ต้องการให้เกิดการปรองดอง รวมถึงการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณค้างท่อปี 2557

ต่อข้อซักถามว่า ล่าสุดทาง นพ.ณรงค์ ได้ยืนยันเดินหน้าหนังสือสั่งการให้พื้นที่งดทำข้อตกลงและดำเนินการร่วมกับ สปสช. นพ.วชิระ กล่าวว่า หากปลัด สธ.ยังคงหนังสือฉบับนี้ไว้ ท่านต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ส่วนจะให้ทาง คสช.เข้ามาไกล่เกลี่ยนั้น มองว่าคงไม่ต้องหากท่านปลัด สธ.คิดถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ต้องยกเลิกหนังสือฉบับนี้ อย่างไรก็ตามหากท่านยังคงทิฐิมานะ แบ่งฝักแบ่งฝ่าย คาดการณ์ว่าในที่สุดคนกลางคงต้องเข้ามาดำเนินการ ทาง คสช.คงทนไม่ได้และต้องเข้ามาดูแล

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ สธ.ขณะนี้ ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเลื่อยขาเก้าอี้ปลัด สธ. ไม่ให้ก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะสอดคล้องกับแพทย์ชนบทที่ออกมาระบุคุณสมบัติที่ไม่ควรเป็น รมว.สธ.ที่มุ่งเป้าไปยังปลัด สธ.นั้น นพ.วชิระ กล่าวว่า การออกมาระบุคุณสมบัติที่ไม่เหมาะเป็น รมว.สธ. เป็นการพูดในบรรยากาศการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งก่อนจะมีการแต่งตั้ง รมว.สธ. ทางแพทย์ชนบทจะออกมาแบบนี้ทุกครั้ง จึงไม่ใช่เรื่องใหม่

“ทั้งนี้ขอฝากทิ้งท้ายว่า วันนี้กุญแจแห่งความสำเร็จ กุญแจแห่งการแก้ไขปัญหาอยู่ที่ท่านปลัด และหากท่านยังคงบรรยากาศแบบนี้ สังคมเริ่มรับรู้มากขึ้น กลายเป็นประเด็นสาธารณะที่มุ่งเป้ามาที่ท่าน ซึ่งจะมาบอกว่าเป็นการเเลื่อยขาเก้าอี้ไม่ได้ อีกทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหลายทั้งปวง ต้องบอกว่าท่านเป็นคนผูกปมขึ้นมา ดังนั้นคนที่จะคลายปมปัญหาคือท่านปลัดเอง” นพ.วชิระ กล่าว