ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

โรงพยาบาลขอนแก่นรับรางวัลยูเอ็นพีเอสเอ ที่ประเทศเกาหลีใต้ (ขอบคุณภาพจากเวบไซต์โรงพยาบาลขอนแก่น)

โรงพยาบาลขอนแก่น และสำนักงานควบคุมโรคที่ 9 จ.พิษณุโลก  คว้ารางวัล “ยูเอ็นพีเอสเอ” ประจำปี 2557 ขององค์การสหประชาชาติ   สาขาการให้บริการสาธารณะด้วยความเป็นมืออาชีพขององค์การ ซึ่งเป็นรางวัลชนะเลิศในระดับโลก จากผลงานการจัดบริการศูนย์ช่วยเหลือเด็กและสตรีจากการกระทำรุนแรง  และการจัดบริการลดปัญหาการเจ็บป่วยจากโรคมาลาเรียในพื้นที่เสี่ยงสูง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก

21 ก.ค. 57 นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า องค์การสหประชาชาติได้ให้หน่วยงานทั่วโลก ที่มีความเป็นเลิศในสาขาบริการสาธารณะต่างๆ ส่งผลงานเข้าประกวด เพื่อรับรางวัล ยูไนเต็ด เนชั่นส์ พับบลิคส์ เซอร์วิส อวอร์ดหรือรางวัล ยูเอ็นพีเอสเอ ( United Nations Public Service Award :UNPSA )โดยในปี 2557 หน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข  ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 2 สาขา ได้แก่ 1.โรงพยาบาลขอนแก่น  จ.ขอนแก่น ได้รับรางวัลชนะเลิศสาขา “การส่งเสริมการให้บริการสาธารณะที่ตอบสนองต่อเพศสภาพ” จากผลงานของศูนย์ช่วยเหลือเด็กและสตรีในภาวะวิกฤติ (One Stop Crisis Centre) หรือศูนย์พึ่งได้   2.สำนักงานควบคุมโรคที่ 9 จ.พิษณุโลก กรมควบคุมโรค ได้รับรางวัลชนะเลิศสาขา “การส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเชิงนโยบายผ่านนวัตกรรม” จากผลงานการพัฒนาศักยภาพบริการแบบบูรณาการ เพื่อลดความเจ็บป่วย จากโรคมาลาเรียในพื้นที่เสี่ยงสูง ที่ อ.ท่าสองยาง จ. ตาก   ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน ทุรกันดาร

สำหรับศูนย์ช่วยเหลือเด็กและสตรีในภาวะวิกฤติของโรงพยาบาลขอนแก่น เป็นศูนย์แห่งแรกของประเทศไทย และเป็นประเทศแรกๆในอาเซียน  ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ 24 ชั่วโมง  ทำหน้าที่คัดกรองและดูแลช่วยเหลือเด็กและผู้หญิงที่ถูกกระทำรุนแรงในครอบครัว ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตจากแพทย์ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ และทีมสหวิชาชีพ อย่างครบวงจร เป็นแหล่งพักพิงชั่วคราวก่อนส่งต่อไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือขั้นต่อไป รวมทั้งยังเป็นศูนย์ข้อมูลและศูนย์ประสานงานหน่วยงานภายในและนอกโรงพยาบาล  ทำให้ผู้ประสบปัญหาเข้าถึงบริการได้รวดเร็ว ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที   ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ขยายบริการช่วยเหลือเด็กและสตรีในภาวะวิกฤติ ครอบคลุมโรงพยาบาลในสังกัด กว่า 700 แห่งทั่วประเทศ  ตั้งแต่ปี 2549-2556 มีสถิติให้บริการช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ถูกกระทำรุนแรง ทั่วประเทศจำนวน 31,755 ราย เฉลี่ย 87 รายต่อวัน  ส่วนใหญ่ถูกกระทำทางเพศ  ทั้งนี้ที่ผ่านมาสังคมไทยยังมองเรื่องเด็กและผู้หญิงที่ถูกกระทำรุนแรงเป็นเรื่องที่น่าอับอาย ควรปกปิดเป็นความลับ  ทำให้ผู้ประสบปัญหาไม่กล้าไปใช้บริการหน่วยงานภาครัฐ

สำหรับผลงานการพัฒนาศักยภาพบริการแบบบูรณาการ เพื่อลดความเจ็บป่วยจากโรคมาลาเรียในพื้นที่เสี่ยงสูง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก  ของสำนักงานควบคุมโรคที่ 9 จ.พิษณุโลก  เป็นการบริหารจัดการแก้ปัญหาเชิงรุกในชุมชน ที่เป็นพื้นที่ชายแดน การคมนาคมยากลำบาก โดยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่าย เช่น หน่วยควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลง หน่วยงานสาธารณสุขและอาสาสมัครในพื้นที่ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ผู้ป่วยและครอบครัว มีการตรวจวินิจฉัยเชื้อมาลาเรีย และให้การรักษาอย่างรวดเร็วและฟรี การให้ความรู้การป้องกัน บริการแจกมุ้งชุบสารเคมี  ตัดวงจรการแพร่กระจายโรค  ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมารับการรักษาพยาบาล  ซึ่งขณะนี้แนวโน้มโรคมาลาเรียในไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง จาก 30,000 กว่าคนในปี 2550 เหลือ 14,000 กว่าคนปี 2556  ที่ยังเป็นปัญหาคือบริเวณชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน