ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.เปลี่ยนชื่อเขตบริการสุขภาพ เป็นเขตสุขภาพ ครอบคลุม 5 มิติ ทั้งส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟู และคุ้มครอง แจงการตั้งสำนักงานสาธารณสุขเขตไม่ได้สิ้นเปลืองงบ เหตุใช้สถานที่เดิมที่มีอยู่แล้ว ส่วนบุคลากรก็ปรับเกลี่ยมาจากหน่วยงานอื่น โดยเฉพาะจากส่วนกลางเพื่อกระจายอำนาจ เตรียมออกกฎกระทรวงรองรับ ทั้งโครงสร้างเขต บุคลากร และประกาศแต่งตั้งผอ.สำนักงานสาธารณสุขเขตทั้ง 12 เขต เร็วๆ นี้

24 ส.ค.57 นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความเดินหน้าปฏิรูปกระทรวงสาธารณสุขด้วยการแบ่งเขตสุขภาพ ว่า หลังจากมีการแบ่งการบริหารจัดการกระทรวงสาธารณสุข ออกเป็นเครือข่ายบริการ 12 เขต ซึ่งแต่ละเขตจะมี 5-7 จังหวัดนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการอยู่ในรูปแบบเครือข่าย มีการแบ่งปันทรัพยากร เครื่องมือแพทย์ต่างๆ รวมทั้งยาและเวชภัณฑ์ โดยเดิมจะเรียกแต่ละเครือข่ายเหล่านี้ ว่า “เขตบริการสุขภาพ” แต่จากนี้ไป สธ.จะไม่ใช้คำว่า “เขตบริการสุขภาพ” แต่จะเปลี่ยนเป็น “เขตสุขภาพ” แทน เนื่องจากที่ผ่านมาจะขับเคลื่อนเฉพาะงานบริการเท่านั้น  ซึ่งอาจไม่ครอบคลุม ดังนั้น ปีนี้ได้ปรับรูปโฉมใหม่ ขยายขอบเขตหน้าที่ให้ครบ 5 มิติ คือ การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาล การฟื้นฟูสุขภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค

นพ.วชิระ กล่าวอีกว่า สำหรับการบริหารรูปแบบเขตสุขภาพนั้น จะผ่านคณะกรรมการที่มีตัวแทนจากทุกภาคส่วน ทั้ง สธ. นักวิชาการ บุคลากรสาธารณสุขแต่ละวิชาชีพ โรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัย กองทัพ ภาคเอกชน ท้องถิ่น และประชาชน ซึ่งการขยายขอบเขตหน้าที่ก็จะช่วยให้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบได้ง่ายขึ้น ส่วนที่บางกลุ่มตั้งข้อสังเกตว่า การบริหารรูปแบบเขตสุขภาพจะต้องตั้งสำนักงานสาธารณสุขเขต หรือ สสข. ด้วยหรือไม่ เพราะเกรงว่าจะสิ้นเปลืองงบประมาณนั้น จริงๆ แล้วตั้งแต่ทำเขตสุขภาพก็มีการตั้ง สสข. ขึ้นอยู่แล้ว แต่ไม่ได้มีการสร้างสำนักงาน หรือออฟฟิศเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นการใช้สถานที่ที่อยู่ในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ที่มีอยู่แล้ว เพราะใช้พื้นที่เพียง 1-2 ห้องก็สามารถทำงานได้ ซึ่งบางจังหวัดอาจใช้พื้นที่ในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ขณะที่จ.เชียงใหม่ ใช้พื้นที่ของศูนย์พัฒนาเด็กของกรมสุขภาพจิต

“สำหรับบุคลากรที่ทำงานใน สสข. นั้น จริงๆ แต่ละเขตจะมีเจ้าหน้าที่เพียง 20-40 คน ซึ่งบางส่วนเกลี่ยบุคลากรจากส่วนกลางของ สธ.ด้วยซ้ำ เพราะปลัดกระทรวงฯ มองว่า ควรปรับเกลี่ยให้ทั่วถึง เพื่อเป็นการกระจายอำนาจ อย่างไรก็ตาม ปีนี้จะทำให้โครงสร้างดังกล่าวมีความชัดเจนขึ้นภายใต้กฎกระทรวง ซึ่งจะทำให้บุคลากรที่มาทำงานมีความมั่นคงในหน้าที่การงาน” รองปลัด สธ. กล่าว และว่า นอกจากนี้จะมีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแต่งตั้งผู้อำนวยการ สสข. ด้วย ซึ่งกำลังร่างกฎกระทรวงอยู่ คาดว่าจะเสร็จในอีก 1-2 สัปดาห์