ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“สุกรี” เผยเอาปี๊บคลุมหัวตลอดเวลาที่ร่วมประชุมคณบดีม.มหิดล แต่ก็ไม่มีใครสอบถามหรือพูดอะไร ส่วนที่ประชุมไม่มีการหารือเรื่องการควบ 2 ตำแหน่งของหมอรัชตะ

10 ก.ย.57 เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่า รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล(มม.) เปิดเผยภายหลังการร่วมประชุมคณบดี มม. ซึ่งมี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดี มม.และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เป็นประธาน ว่า ตนได้นั่งเอาปี๊บคลุมหัวตลอดเวลาที่เข้าร่วมประชุม เพื่อดูท่าทีของคณบดีคณะต่างๆ ซึ่งก็ไม่ได้มีใครพูด หรือสอบถามอะไรตน และในการประชุมก็ไม่ได้มีการสอบถามถึงเรื่องการควบตำแหน่งทั้ง 2 ตำแหน่งของ ศ.นพ.รัชตะ รวมทั้งตนก็ไม่ได้พูดคุยกับ ศ.นพ.รัชตะด้วย ทั้งนี้ตนใช้เวลาอยู่ในที่ประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง และรู้สึกเบื่อจึงได้ออกจากที่ประชุมมาก่อน อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าจะเอาปี๊บคลุมหัวจนกว่า ศ.นพ.รัชตะ จะลาออกจากตำแหน่งอธิการบดี มม. 

นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มม. กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการหารือในวาระปกติ ไม่ได้มีการพูดคุยถึงการการแสดงออกของ รศ.ดร.สุกรี แต่ ศ.นพ.รัชตะ ได้พูดถึงการเข้ารับตำแหน่งรมว.สาธารณสุขด้วย ซึ่งตนคงไม่สามารถบอกรายละเอียดได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการโทรศัพท์ไปยัง ศ.นพ.รัชตะ หลายครั้ง เพื่อสอบถามผลการประชุมคณบดี และความคิดเห็นต่อกรณีที่ รศ.ดร.สุกรี ใส่ปี๊บคลุมหัวเข้าร่วมประชุม เพื่อเรียกร้องให้ ศ.นพ.รัชตะ ลาออกจากตำแหน่งอธิการบดี มม. แต่ก็ไม่มีการรับสาย

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ศ.นพ.รัชตะ ได้มีการชี้แจงความเป็นมาของการเข้ารับตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข และแนวทางการบริหารจัดการ มม. ในมหิดลสาร ปีที่ 39 ฉบับที่ 8 (31 สิงหาคม 2557) หน้าที่ 7 ซึ่งเป็นวารสารที่เผยแพร่ภายในมหาวิทยาลัย โดยมีใจความระบุถึงชาวมหิดลตอนหนึ่งว่า

“ผมได้รับเชิญจากท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้มาช่วยดูแล สธ. ผมพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นโอกาสที่จะได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ในการช่วยพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศ เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชนชาวไทย และจะยังมีโอกาสได้ร่วมแสดงความคิดเห็น และตัดสินใจในคณะรัฐมนตรี ในการปฏิรูปประเทศไทยในด้านต่างๆ อีกด้วย จึงได้ตอบรับคำเชิญของท่านนายกรัฐมนตรีสำหรับการบริหารงานต่อไปของมหาวิทยาลัยคงจะไม่มีการสะดุด เพราะช่วงนี้เป็นฤดูกาลมอบหมายงานแก่ส่วนงานต่างๆ และการประเมินผลงานประจำปีของผู้บริหารและบุคลากร งานตามแผนยุทธศาสตร์จะดำเนินไปตามปกติ กิจกรรมพิเศษต่างๆ ก็เป็นไปตามที่วางแผนไว้แล้ว ขณะนี้งบประมาณของมหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปีงบประมาณ 2558 ก็ผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการในวาระ 2 แล้ว

ทั้งนี้เมื่อผมเริ่มต้นปฏิบัติงานที่ สธ. ระยะหนึ่งแล้ว คงจะมีแนวทางที่ชัดเจนขึ้นในการปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี ซึ่งจะแจ้งให้ทราบโดยเร็ว ในระหว่างนี้ ผมและท่านรองอธิการบดีทุกท่านพร้อมที่จะช่วยกันทำงาน โดยยึดแนวทางที่จะยังประโยชน์สูงสุดให้แก่มหาวิทยาลัย”