ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

หมอรัชตะและหมอสมศักดิ์ ตรวจเยี่ยมการทำงานของกรมการแพทย์ สนับสนุนให้มีความร่วมมือด้านวิชาการทางการแพทย์กับประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน ร่วมทั้งพัฒนาให้เป็นแหล่งฝึกอบรมบุคลากรด้านสาธารณสุขให้ประเทศเพื่อนบ้าน สร้างเสริมความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งขณะนี้กรมการแพทย์ร่วมกับมหาวิทยาลัยผลิตแพทย์ปีละ 100 คน พัฒนาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 43 สาขา เฉลี่ย 150 คนต่อปี และบุคลากรสาขาอื่นๆ ในกว่า 300 สาขา อีกปีละ 5,500 คน

9 ต.ค.57 ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะที่ปรึกษา ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานให้แก่ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กรมการแพทย์ และให้สัมภาษณ์ภายหลังรับฟังผลการดำเนินงานของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จากนายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์และคณะ ว่า กรมการแพทย์เป็นกรมวิชาการ ทำหน้าที่ด้านการศึกษาวิจัยพัฒนาและเผยแพร่องค์ความรู้/เทคโนโลยีทางการแพทย์  มาตรฐานการรักษาพยาบาล รวมทั้งให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางในระดับทุติยภูมิ ตติยภูมิ โดยมีโรงพยาบาลและสถาบันในสังกัด 30 แห่ง อยู่ในส่วนกลาง 14 แห่ง และต่างจังหวัด 16 แห่ง มีบริการสาขาต่างๆ อาทิ อาชีวเวชศาสตร์ มะเร็ง โรคทางตา เด็ก ผู้สูงอายุ เป็นต้น นอกจากจะให้บริการผู้ป่วยแล้ว ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ ฝึกอบรม และถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข

นอกจากนี้ ยังมีภารกิจที่สำคัญในการผลิตและพัฒนาบุคลากรให้เพียงพอและสอดคล้องกับความต้องการของระบบบริการสุขภาพ ได้แก่ 1.ผลิตแพทย์ร่วมกับมหาวิทยาลัยรังสิตปีละ 100 คน ขณะนี้ผลิตไปแล้ว 20 รุ่น จบการศึกษา 1,456 คน 2.พัฒนาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใน 43 สาขา ตั้งแต่ปี 2510-2557 เฉลี่ยปีละ 150 คน จบการศึกษาแล้ว 3,252 คน และ3.พัฒนาบุคลากรสาขาอื่นๆ มากกว่า 300 หลักสูตร รวมปีละ 5,500 คน

ศ.นพ.รัชตะ กล่าวต่อว่า ได้มอบนโยบายให้กรมการแพทย์ พัฒนากลไกการผลิตและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์เชื่อมโยงกับอาเซียน พร้อมที่จะเป็นแหล่งผลิตและฝึกอบรมบุคลากรด้านสาธารณสุขของประเทศสมาชิกอาเซียน โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัย มั่นใจว่าเมื่อมีความร่วมมือกันในด้านนี้แล้ว จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย

ศ.นพ.รัชตะ ยังได้มอบนโยบายให้บูรณาการการทำงานกับทุกหน่วยงานที่เชื่อมโยงกันทั้งข้ามกรม ข้ามกระทรวง ในการดูแลสุขภาพและจัดบริการประชาชน  ลื่นไหลทั้งการทำงานและการจัดสรรงบประมาณที่ไม่ทับซ้อนกัน เพื่อให้งานประสบความสำเร็จ สอดคล้องกับนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีด้านสังคมจิตวิทยา ที่มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต