ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อัครราชทูตที่ปรึกษาและอุปทูตสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย หารือความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยและสหรัฐฯ พร้อมชื่นชมไทยในการเตรียมป้องกันโรคอีโบลาในประเทศได้เข้มแข็ง เผยผลการเฝ้าระวังโรคอีโบลาของไทยจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ แนะชาวไทยที่เดินทางกลับจากพื้นที่ระบาด หากมีไข้ภายใน 21 วันหลังเดินทาง อย่าซื้อยาแอสไพริน หรือไอบรูโพรเฟนลดไข้ เพราะจะทำให้เลือดออกง่ายขึ้น ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติเดินทางด้วย

17 ตุลาคม 2557 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้การต้อนรับนายแพทริค เมอร์ฟี (Mr.W.Patrick Murphy) อัครราชทูตที่ปรึกษาและอุปทูต สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย นายเอริก ฟราเทอร์ เลขานุการอันดับ 1 ด้านเศรษฐกิจสุขภาพ (Mr.Eric Frater : First Secretary of the Economic section for Health issue) และนายไมค์ เบิร์คลี ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุข องค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (Mr. Mike Burkly : Director of Public Health Office, USAID) เพื่อหารือความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา

นพ.สมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ในการหารือครั้งนี้ นายแพทริคได้กล่าวชื่นชมประเทศไทยในการเตรียมความพร้อมมาตรการควบคุมป้องกันโรคอีโบลา ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของไทย ได้เข้าร่วมประชุมวาระความมั่นคงด้านสุขภาพโลกที่ทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา โดยได้แสดงความตระหนักเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของอีโบลา มีการเตรียมการป้องกันในประเทศอย่างเข้มแข็ง และพร้อมการให้ความช่วยเหลือนานาชาติในการควบคุมป้องกันโรคเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ทั่วโลก รวมทั้งความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ ในการทดลองวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ที่ผ่านมาซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี และจะขยายความร่วมมือในการทดลองขั้นต่อไป นอกจากนี้ ยังชื่นชมประเทศไทยที่มีความก้าวหน้าในการพัฒนาระบบสาธารณสุข เช่นด้านอนามัยแม่และเด็ก การควบคุมป้องกันโรคเอดส์ โครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งไทยมีผลการดำเนินงานมีความเข้มแข็ง โดดเด่นในภูมิภาค และเป็นผู้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานสาธารณสุขแก่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาค

สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา องค์การอนามัยโรครายงานพบผู้ป่วยยืนยัน สงสัย และเข้าข่ายติดเชื้อ ใน 7 ประเทศ ได้แก่ กินี ไลบีเรีย ไนจีเรีย เซเนกัล เซียร์ร่าลีโอน สเปน และสหรัฐอเมริกา จนถึงวันที่ 12 ตุลาคม 2557 รวม 8,997 ราย มีผู้เสียชีวิต 4,493 ราย ในส่วนของไทยขณะนี้ยังคงมาตรการป้องกันโรค เน้นการเฝ้าระวังใน 3 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโรค ที่สนามบิน ช่องทางเข้าออกประเทศทางบกและทางเรือ กลุ่มผู้ป่วยในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน และชุมชนที่มีชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่องทุกวัน ผลการเฝ้าระวังในกลุ่มผู้เดินทางจากพื้นที่ระบาดจำนวน 2,229 คน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา อย่างไรก็ดี ขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ระบาดไปก่อน หากจำเป็นต้องเดินทางไปขอให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำ และเมื่อกลับมาหากมีไข้ภายใน 21 วัน อย่าซื้อยาลดไข้กินเอง โดยเฉพาะยาแอสไพริน และไอบูรโพรเฟน เนื่องจากจะทำให้เลือดออกง่ายขึ้น ขอให้รีบไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง เพื่อดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคได้อย่างทันท่วงที