ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประธานบอร์ดอภ.แถลงสาเหตุปลดหมอสุวัชพ้นผอ.อภ. ชี้เแก้ปัญหาความขัดแย้งในองค์กรไม่ได้ ยืนยันเป็นคนดี แต่ไม่พอ ต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพด้วย ลั่นมีอำนาจเต็มเลิกสัญญา แต่ไม่ขอลงรายละเอียด เตรียมหาคนใหม่ใน 3 เดือน ตั้งคกก.สรรหาแล้ว 5 คน มีหมออำพล เลขาธิการสช. และหมอสุรเชษฐ์ รองปลัดสธ. เป็นกรรมการด้วย

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) พล.ท.ศุภกร สงวนชาติศรไกร รองเสนาธิการทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการอภ. (บอร์ดอภ.) เปิดแถลงข่าวภายหลังบอร์ดอภ. มีมติเลิกจ้าง นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผู้อำนวยการอภ. โดย พล.ท.ศุภกร เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ดอภ.เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2558 ได้พิจารณาผลการปฏิบัติงานในฐานะผู้บริหารสูงสุดของอภ.และเลขานุการบอร์ดอภ. เห็นว่าการบริหารอภ.จำเป็นต้องมีการบริหารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อผลักดันนโยบายและแนวทางการดำเนินงานให้เกิดผลสำเร็จ และมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งถือเป็นภารกิจเป้าประสงค์ และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของบอร์ดอภ. ใช้ในการขับเคลื่อนองค์กรให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งแม้ว่านพ.สุวัช จะสามารถปฏิบัติงานของอภ.ตามที่ได้รับมอบหมายได้ แต่ยังไม่เพียงพอต่อการตอบสนองภารกิจ เป้าประสงค์ และเป้าหมายที่สำคัญขององค์กร

“เพื่อให้การขับเคลื่อนอภ.ให้บรรลุภารกิจและเป้าหมายที่สำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ประชุมคณะกรรมการฯ จึงอาศัยอำนาจตามมาตราที่ 25 แห่งพ.ร.บ.องค์การเภสัชกรรม พ.ศ.2509 และตามสัญญาจ้างผู้บริหารลงวันที่ 2 ก.ย. 2556 มีมติเห็นควรเลิกจ้าง นพ.สุวัช ก่อนครบกำหนดตามสัญญา โดยให้การเลิกสัญญาจ้างมีผลถัดไปอีก 30 วัน นับจากวันที่ นพ.สุวัชได้รับหนังสือบอกกล่าวการเลิกจ้าง และจะจ่ายเงินค่าตอบแทนเป็นจำนวนเงิน 6 เท่าของเงินเดือน ทั้งนี้ให้คณะกรรมการ ได้มีหนังสือบอกกล่าวการเลิกจ้างไปยัง นพ.สุวัชแล้ว” พล.ท.ศุภกร กล่าว

ทั้งนี้ ที่ประชุมบอร์ดอภ. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการอภ. เพื่อทำหน้าที่ผู้อำนวยการคนใหม่ โดยให้ น.ส.โสภาวดี เลิศมนัสชัย อดีตเลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และกรรมการอภ. เป็นประธาน และมี นพ.อำพล จินดาวัฒนะ นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย นายอัษฎางค์ เชี่ยวธาดา นางญาใจ พัฒนาสุขวสันต์ เป็นกรรมการ และมี ภญ.วนิชา ใจสำราญ รองผู้อำนวยการอภ. เป็นเลขานุการ โดยคาดว่าจะใช้เวลา 3 เดือนในการสรรหาผู้อำนวยการคนใหม่ รวมถึงให้ ภญ.วนิชา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการอภ.

“ผมยืนยันว่าหมอสุวัชเป็นคนดี แต่ขณะนี้ ปัญหาความขัดแย้งในองค์กรยังมีอีกมาก โดยที่คุณหมอสุวัชไม่สามารถแก้ปัญหาได้ คณะกรรมการมีความจำเป็น ต้องหาผู้บริหารที่สามารถบริหารคนและบริหารงานให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ต่อไป”พล.ท.ศุภกรกล่าว

ประธานบอร์ดอภ. กล่าวอีกว่า หากบอร์ดอภ. ซึ่งต้องรับผิดชอบเรื่องรายรับ และการผลิตยา พบปัญหาในการบริหารงาน สามารถพิจารณาเลิกจ้างได้ โดยพิจารณาจากสมรรถนะ สมรรถภาพก็สามารถเลิกจ้างผู้อำนวยการได้ ส่วนปัญหาโรงงานผลิตยา และโรงานผลิตวัคซีน หลังจากนี้ ต้องตั้งกรรมการติดตามความคืบหน้าต่อไปต่อไป ทั้งนี้ ไม่ได้บอกว่านพ.สุวัชผิดอะไร แต่เป็นเรื่องความสามารถในเรื่องของการบริหาร การเป็นคนดีอย่างเดียวนั้นไม่พอ แต่ต้องมีความสามารถในการบริหาร ขับเคลื่อนองค์กรต่อไป และการเลิกจ้าง ไม่เกี่ยวกับปัญหาการเมืองแน่นอน

“เราได้ดูปัญหาต่างๆ ตั้งแต่บอร์ดเข้ามาทำงานเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ซึ่งปัญหาหลายเรื่อง บอร์ดต้องเข้าไปแก้ให้ ทั้งที่ความจริงเป็นเรื่องของผู้บริหาร การให้บอร์ดเข้าไปแก้ไขปัญหาทุกเรื่อง ถือว่าทำหน้าที่ไม่ถูกต้อง ผู้บริหารต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ ส่วนเป็นเรื่องอะไรบ้าง ไม่ขอลงรายละเอียด”ประธานบอร์ดอภ.กล่าว

พล.ท.ศุภกร กล่าวอีกว่า คุณสมบัติของผู้อำนวยการคนใหม่ ต้องมีความสามารถบริหารคน ทำให้คนในอภ. เป็นหนึ่งเดียวกันได้ และทำให้ทุกคนตั้งใจทำงานเพื่ออภ. โดยรวมใจเป็นหนึ่ง ไม่มีความแตกแยก ขณะเดียวกัน ยังต้องมีความสามารถในการบูรณาการอภ. ระบบโลจิสติกส์ ระบบคลัง เพื่อให้ขับเคลื่อนงานได้อย่างสมบูรณ์

ทั้งนี้ นพ.สุวัช เพิ่งรับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2556 ภายหลัง บอร์ดอภ.ชุดที่แต่งตั้งโดยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งมี นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เป็นประธาน เลือก นพ.สุวัช ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้อำนวยการอภ.แทน นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ซึ่งถูกคณะกรรมการเลิกจ้างจากปัญหาวัตถุดิบยาพาราเซตามอลปนเปื้อน โดยภายหลังการบริหารงานได้ไม่นาน อภ.เกิดปัญหาการบรรจุยาสลับซอง ขณะเดียวกัน นพ.สุวัชได้ถูก 8 เครือข่ายสุขภาพฯ ร้องเรียนเรียนปัญหาเกี่ยวกับการจัดส่งยาไม่ทัน และการจัดตั้งศูนย์ล้างไต ที่โรงพยาบาลมหาสารคามอินเตอร์เนชั่นแนล มีผลประโยชน์ทับซ้อน อย่างไรก็ตาม นพ.สุวัช ยืนยันว่า ได้บริหารงานอย่างสุดความสามารถ จนองค์กรอภ.มีผลประกอบการใกล้เคียงกับเมื่อปี 2556 ทั้งที่ เกิดปัญหาขึ้นหลายประการ