ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข พัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เป็นศูนย์เชี่ยวชาญรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด อุบัติเหตุ ทารกแรกเกิด โรคหลอดเลือดสมอง บริการประชาชนในแถบปริมณฑล ประชากรหนาแน่น เข้าถึงบริการง่าย ในปี 2558 จะเพิ่มสาขาโรคตา จัดระบบส่งยาผู้ป่วยเรื้อรังทางไปรษณีย์ด่วนถึงบ้าน ส่งแพทย์เชี่ยวชาญกระดูกไปบริการที่โรงพยาบาลปากเกร็ด ลดความแออัดในโรงพยาบาล

19 พ.ย.57 ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดประชุมวิชาการประจำปีของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ครั้งที่ 12 เน้นประเด็น “ก้าวสู่สิ่งที่ดีกว่า” (Go to the Better) โดยมีบุคลากรของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ภาครัฐและเอกชนในจังหวัดนนทบุรี ร่วมประชุมกว่า 500 คน        

นพ.วชิระ กล่าวว่า โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าเป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิหรือระดับเชี่ยวชาญเฉพาะโรค อยู่ในเครือข่ายบริการของเขตสุขภาพที่ 4 ประกอบด้วย 8 จังหวัดได้แก่ สระบุรี สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครนายก ปทุมธานี นนทบุรี ซึ่งเป็นเขตปริมณฑลมีประชากรรวม 5 ล้านคน เฉพาะที่จ.นนทบุรีมีประชากรเกือบ 2 ล้านคน เนื่องจากมีการเติบโตของเมืองอย่างรวดเร็ว ปัญหาสุขภาพมีความซับซ้อนกระทรวงสาธารณสุขได้วางระบบบริการพิเศษในจังหวัดคือ 1 จังหวัด 1 โรงพยาบาล  โดยจัดบริการดูแลร่วมกัน ทั้งโรงพยาบาลชุมชน สถาบันโรคทรวงอก สถาบันบำราศนราดูร ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุหรือรพ.ชลประทาน รพ.ศรีธัญญา มีระบบการส่งต่อผู้ป่วยที่รวดเร็วเหมือนเป็นหอผู้ป่วยในโรงพยาบาลเดียวกัน และแลกเปลี่ยนแพทย์เฉพาะทางเชี่ยวชาญเช่นโรคหัวใจ สมอง จิตเวช อุบัติเหตุ ลดความแออัดผู้ป่วยในโรงพยาบาลแต่ละแห่งได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ได้จัดบริการการแพทย์ทางเลือกในโรงพยาบาลควบคู่การแพทย์แผนปัจจุบัน โดยเฉพาะการฝังเข็ม ให้บริการผู้ป่วยโรคเรื้อรังเช่น ปวดหลัง โรคกระดูกและข้อ อัมพฤกษ์ อัมพาต ได้รับความนิยม มีผู้ใช้บริการร้อยละ 10 ของผู้ป่วยนอก ขณะนี้ได้จัดคลินิกหมุนเวียนออกให้บริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลด้วย โดยกระทรวงฯ จะเร่งพัฒนาบริการให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการดียิ่งขึ้น

นพ.วิรุฬห์ พรพัฒน์กุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าเป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาด515 เตียง มีผู้มารับการตรวจรักษาวันละ 2,300 ราย ขณะนี้ ได้พัฒนาศักยภาพรักษาโรคที่ซับซ้อนตามนโยบายแผนพัฒนาระบบบริการ เพื่อเป็นศูนย์รับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลอื่นๆ ขณะนี้ให้บริการแล้ว 4 สาขา ได้แก่ ศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง ทารกแรกเกิด และอุบัติเหตุฉุกเฉิน พบว่าได้ผลดี ผู้ป่วยโรคหัวใจได้รับการรักษาทันที 24 ชั่วโมง ช่วยลดการเสียชีวิตลงได้มาก โดยมีผู้ป่วยรับบริการขยายหลอดเลือดหัวใจ 240 ราย  ฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจ 193 ราย ในปี 2558 จะเพิ่มสาขาเชี่ยวชาญโรคตา ซึ่งมีแพทย์สาขาย่อยครบถ้วนเช่นโรคต้อหิน จอประสาทตา เพื่อเป็นศูนย์เชี่ยวชาญประจำเขตสุขภาพที่ 4   

สำหรับการลดความแออัด ขณะนี้ได้เพิ่มบริการจัดส่งยาด่วนทางไปรษณีย์ให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องกินยาต่อเนื่องเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ครั้งละ 100 บาท ช่วยผู้ป่วยลดค่าใช้จ่ายเดินทางลงได้ 190 บาท จัดแพทย์ไปตรวจที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และจัดแพทย์เฉพาะทางโรคกระดูกและข้อ ไปตรวจที่รพ.ปากเกร็ด สัปดาห์ละ 1 วัน กรณีที่ต้องผ่าตัดจะนัดมาผ่าตัดที่รพ.พระนั่งเกล้า และส่งนอนพักฟื้นที่รพ.ปากเกร็ด เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการได้เร็วขึ้น ซึ่งพบว่าประชาชนพอใจมาก ต่อไปจะขยายไปที่รพ.บางบัวทองด้วย