ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ASTVผู้จัดการรายวัน - "ดร.อัมมาร" ค้านแนวคิดรีดเงินคนรวยตั้งกองทุนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลช่วยคนจนระบบบัตรทอง ชี้เก็บภาษีควรพิจารณาเพื่อการใช้จ่ายทุกด้าน ไม่ใช่ด้านใดด้านหนึ่ง ระบุต้องแก้ที่รัฐบาลขี้เหนียว อ้างงบน้อย ไม่เทงบด้านสุขภาพ เน้นแต่โครงการประชานิยม แช่แข็งงบบัตรทองไม่เพิ่มเงินรายหัวจน รพ.ขาดสภาพคล่อง

ดร.อัมมาร สยามวาลา ประธานคณะกรรมการประสานระบบสุขภาพแห่งชาติ 3 กองทุน กล่าวถึงกรณี นพ.สมศักดิ์ ชุนหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอแนวคิดตั้งกองทุนร่วมจ่ายแทนประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) โดยเก็บเบี้ยภาษีคนรวยที่สุด 6 แสนคนวันละ 100 บาท และคนรวยรองลงมา 6 ล้านคนวันละ 10 บาท จะได้เงินกองทุนปีละ 36,000 ล้านบาท ว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย กับแนวทางดังกล่าว เพราะต้องใช้งบจากรัฐเหมือนเดิม และไม่เห็นด้วยกับการเก็บเงินภาษีพิเศษสำหรับการใช้จ่ายอันใดอันหนึ่ง เพราะควรเก็บภาษีรวมเพื่อการใช้จ่ายรอบด้าน รวมถึงงานรักษาพยาบาล นอกจากนี้ ยังมองว่าเงินค่ารักษาพยาบาลในระบบบัตรทองเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่ขึ้นทุกปีประมาณ 5,000-10,000 ล้านบาท ตามจำนวนประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งต้องใช้บริการสุขภาพมากขึ้น รวมถึงเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับบุคลากรในระบบสาธารณสุข

"การใช้จ่ายด้านรักษาพยาบาลเป็นเหมือนประกันภัยที่รัฐประกันให้ แต่ที่ผ่านมาที่เห็นว่างบบัตรทองมีปัญหาเพราะรัฐบาลขี้เหนียว แช่แข็งงบบัตรทองไว้หลายปี ทั้งที่งบประมาณด้านสุขภาพควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ แต่จะเห็นว่าวันนี้ได้งบน้อยกว่างบการศึกษา ฯลฯ ซึ่งรัฐบาลมีข้อแก้ตัวอยู่เสมอๆ ว่าไม่มีเงิน แต่กลับเอาไปใช้ด้านอื่นจำนวนมากอย่างหน้าตาเฉย โดยเฉพาะโครงการประชานิยม แต่สิ่งที่สัญญาไว้กับประชาชนกลับทำไม่ได้ และที่ รพ.สังกัดรัฐมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องก็เป็นปัญหามาจากการที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ไม่เพียงพอ ทางแก้คือต้องจัดเงินให้พอ จะมาอ้างว่าไม่มีเงินไม่ได้ ทั้งที่งบด้านสุขภาพควรจะจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ แต่รัฐบาลกำลังเบี้ยว อย่าให้รัฐบาลติดนิสัยเบี้ยวสัญญา จะมาว่าประชาชนไม่ได้เพราะเขาไม่ได้ไปรักษาพยาบาลเพื่อความสุขส่วนตัว แต่เขาไปเพราะความเจ็บป่วย ไม่มีทางเลือก นี่ไม่ใช่นิสัย" ดร.อัมมาร กล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน วันที่ 1 ธันวาคม 2557