ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

8 เครือข่ายองค์กรสุขภาพ เข้าพบ นพ.สุรเชษฐ์ บอร์ดอภ. และกรรมการสรรหา ผอ.อภ. เสนอให้ผู้สมัคร ผอ.อภ. แสดงวิสัยทัศน์ต่อสาธารณะก่อนเข้ารับการคัดเลือก หวั่นได้ ผอ.อภ.คนใหม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน จะยิ่งซ้ำเติมความมั่นคงด้านการเข้าถึงยาของคนไทย ถูกบรรษัทยาข้ามชาติแทรกแซง

7 ม.ค.58 เมื่อเวลา 16.45 น. เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี และ ตัวแทน 8 เครือข่ายองค์กรสุขภาพ ไปพบ นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรมัย กรรมการสรรหาผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (ผอ.อภ.) เพื่อยื่นหนังสือขอให้คณะกรรมการสรรหาและคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม(บอร์ดอภ.) เปิดเผยวิสัยทัศน์และทิศทางแผนงานของผู้สมัคร ผอ.อภ.ต่อสาธารณะก่อนที่จะตัดสินใจเลือก

นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า เนื่องจากองค์การเภสัชกรรมเป็นองค์กรสำคัญต่อความมั่นคงทางยาของประเทศทั้ง การผลิตยาจำเป็นต่อปัญหาสุขภาพและการคิดค้นขึ้นทะเบียนยาใหม่ๆ ตลอดจนการถ่วงดุลรักษาระดับราคายาในประเทศ  ผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ผู้อำนวยการจะต้องเป็นผู้ที่สาธารณะไว้วางใจ ตรวจสอบได้ว่ามีแนวทางและปณิธานแน่วแน่สอดคล้องกับพันธกิจขององค์กรจึงต้อง การให้มีการแสวงวิสัยทัศน์และทิศทางการทำงานต่อสาธารณะอย่างเปิดเผย

“เพื่อให้สาธารณชนมีส่วนร่วมในการสรรหาผู้อำนวยการอภ.คนใหม่ พวกเรา 8 องค์กรเครือข่ายสุขภาพจึงขอเรียกร้องให้ กรรมการสรรหา และ คณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยวิสัยทัศน์และทิศทาง แผนงาน ของผู้สมัคร ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกผู้หนึ่งผู้ใด ถ้าการเลือกครั้งนี้ได้ผู้ที่ไม่เหมาะสม ได้ผู้ที่เคยมีผลประโยชน์ทับซ้อน กับการผลิตและขายยาหรือเคยเกี่ยวข้องกับบรรษัทยาข้ามชาติ หรือเป็นผู้ที่ไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะเข้ามากอบกู้สถานการณ์ขององค์การเภสัชกรรมในขณะนี้ จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมความมั่นคงด้านการเข้าถึงยา เข้าถึงการรักษาของประชาชนผู้เจ็บป่วย เราจึงคิดว่าขั้นตอนนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่ง” นายนิมิตร์ กล่าว

นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทยกล่าวว่า องค์การเภสัชกรรม เป็นองค์กรที่มีความสำคัญต่อหลักประกันสุขภาพทุกระบบในประเทศ ตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม จึงเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญ มีผลต่อการได้รับยา ได้รับการรักษาของประชาชนที่เจ็บป่วยเป็นอย่างมาก 

“ในช่วงที่ผ่านมา การมีผู้บริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีความเข้าใจในพันธกิจต่อสังคมขององค์การเภสัช ทำให้ผู้ป่วยได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก กรณีของผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอง หลายพื้นที่ตกอยู่ในภาวะขาดยา หลายคนต้องลางานมารับยาเดือนละหลายครั้งจนมีผลกระทบต่อการงาน เราจึงต้องการความมั่นใจว่า จะไม่เกิดเรื่องราวเหล่านี้อีก เราจึงขอมีส่วนร่วมในการตรวจสอบโดยให้เปิดเผยวิสัยทัศน์และทิศทางการทำงาน ของผู้สมัครทุกคนเพื่อที่ประชาชนจะใช้ในการตรวจสอบและเท่ากับเป็นการประกาศพันธะสัญญาของผู้บริหารต่อสาธารณะด้วย” นายอภิวัฒน์ กล่าว