ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นสพ.มติชน : ทีมนักวิจัยชาวอังกฤษจากมหา วิทยาลัย คอลเลจ ออฟ ลอนดอน (ยูซีแอล) และ คิง คอลเลจ ลอนดอน เปิดเผยผลการศึกษาวิจัยว่า อังกฤษสามารถเอาชนะโรคมะเร็งและป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยทุกรายที่อายุต่ำกว่า 80 ปีเสียชีวิตจากอาการป่วยเป็นมะเร็งได้ภายในปี ค.ศ.2050 (พ.ศ.2593) หรือในอีก 35 ปีข้างหน้า ถ้าหากผู้ป่วยสามารถเข้าถึงมาตรการป้องกันและรักษามะเร็งได้อย่างทั่วถึง รวมถึงความก้าวหน้าเทคโนโลยีการรักษา จะทำให้มะเร็งเป็นโรคที่ป้องกันได้ และรักษาได้

ขอบคุณภาพจาก  www.independent.co.uk

เหตุผลของการประเมินชัยชนะในโรคมะเร็งดังกล่าวนั้น พิจารณาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านรังสีวิทยา, การผ่าตัด และการรักษาโรคมะเร็งด้วยยาบำบัดที่รุดหน้าไปเร็วมาก เมื่อผสมผสานกับการลดการสูบบุหรี่ และการปรับปรุงระบบเพื่อการตรวจวินิจฉัยมะเร็งให้มีสัดส่วนในการค้นพบมะเร็งในระยะเริ่มแรกที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ นำในไปสู่ชัยชนะใน "สงครามกับโรคมะเร็ง" ดังกล่าว

เดวิด เทย์เลอร์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ด้านเภสัชวิทยาและนโยบายสาธารณสุข ระบุว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว มะเร็งจะกลายเป็นโรคที่ในทางหนึ่งนั้นสามารถป้องกันได้ พร้อมกันนั้นก็สามารถรักษาได้ เช่นเดียวกัน

งานวิจัยดังกล่าววิเคราะห์ข้อมูลแล้วพบว่า ระหว่างปี 1991-2012 การเสียชีวิตจากมะเร็งที่ก่อให้เกิดการตายสูงสุด 4 ชนิดในอังกฤษ คือ มะเร็งเต้านม, มะเร็งปอด, มะเร็งลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมาก ลดลงราว 30 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนั้น ยังมีการตรวจวิเคราะห์พบอาการมะเร็งในประชาชนราว 325,000 คนต่อปีในอังกฤษ โดยที่สัดส่วนของผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปจะเป็นมะเร็งเท่ากับ 1 ใน 5,000 คน, ผู้ที่อายุเกิน 50 ปี เพิ่มเป็น 1 ใน 100 คนและเกิน 65 ปีเพิ่มเป็น 1 คนในทุกๆ 30 คน

ที่มา : นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 28 ม.ค. 2558 (กรอบบ่าย)