ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“หมอรัชตะ” เผยปัญหา “สธ.ยกเลิกหน่วยบริการขึ้นทะเบียนบัตรทอง” อยู่ระหว่างการพูดคุยแก้ปัญหาระหว่าง สธ.- สปสช. กันประชาชนได้รับผลกระทบ ด้าน “หมอวินัย” ระบุ หาก สธ.คงหน่วยบริการทำหน้าที่ต่อ ไม่น่ามีปัญหา แต่ขึ้นอยู่กับ สธ.จะตัดสินใจอย่างไรต่อไป หมอสุทัศน์เผย หาก สปสช.ยังไม่พร้อม สธ.ยินดีที่จะดำเนินการให้จนกว่าจะพร้อม ขณะที่ภาคประชาชนจี้สธ.ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว

2 ก.พ.58 ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีคำสั่งยกเลิกหน่วยบริการในสังกัดทำหน้าที่ขึ้นทะเบียนผู้มีสิทธิระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ซึ่งจะมีผลในวันที่ 30 เมษายน 2558 ว่า เรื่องนี้ได้มอบนโยบายให้กับผู้บริหารระดับสูง สธ.แล้ว และอยู่ระหว่างการใช้กลไกในระดับต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อแก้ไขความขัดแย้งและให้เกิดการทำงานร่วมกัน ตั้งแต่กลไกอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง สปสช. รวมไปถึงความร่วมมือในการจัดทำงบขาขึ้นปี 2559 ระหว่าง สธ.และ สปสช. ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและได้เริ่มมีการทยอยพูดคุยกันแล้ว

ทั้งนี้สาเหตุที่ สธ.ยกเลิกให้หน่วยบริการขึ้นทะเบียนผู้มีสิทธิ์ฯ นั้น มาจากการตีความทางกฎหมายในประเด็นที่บอร์ด สปสช.ให้ยกเลิก สสจ.เป็น สปสช.สาขาจังหวัด ทำให้ต้องมีการปรับบทบาทหน้าที่เพื่อความให้สอดคล้อง แต่เมื่อมีผลกระทบต่อประชาชนคงต้องมาพูดคุยความร่วมมือระหว่าง สธ.และ สปสช. ทำอย่างไรไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน

ด้าน นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนผู้มีสิทธิระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า แยกเป็น 2 ส่วน คือ 1.กรณีเด็กแรกเกิด ซึ่งประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่ปีละ 800,000 คน และ 2.ประชาชนที่เจ็บป่วย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงย้ายสิทธิเฉลี่ยปีละ 4 ล้านครั้งต่อปี ในที่นี้รวมถึงกรณีที่ผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมหมดสิทธิ ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 2 กลุ่มนี้จะสามารถลงทะเบียนผู้มีสิทธิระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้ที่หน่วยบริการ โดยนายทะเบียนหน่วยบริการจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะสามารถขึ้นทะเบียนสิทธิได้หรือไม่

อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่เกิดปัญหานี้ ขณะนี้ทาง สปสช.อยู่ระหว่างการพิจารณา และมองว่าหาก สธ.ให้หน่วยบริการยังคงทำหน้าที่ในการขึ้นทะเบียนต่อไป ก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไรเพราะถือเป็นหน่วยบริการที่ใกล้กับประชาชนมากที่สุด แต่ทั้งนี้คงต้องขึ้นอยู่กับ สธ.ว่าจะตัดสินใจอย่างไร รวมไปถึงแนวทางการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะ อบต.เป็นผู้ขึ้นทะเบียน แต่ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อหาทางออก โดยเน้นให้ประชาชนมีความสะดวกมากที่สุด

นพ.สุทัศน์ ศรีวิไล ประธานชมรมนายแพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป พร้อมด้วย นพ.สุรพร ลอยหา ประธานชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและคณะ ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากมติบอร์ด สปสช. ที่ยกเลิกให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเป็น สปสช.สาขาจังหวัด ดังนั้นการทำหน้าที่นายทะเบียนก็ต้องให้สปสช.เขตเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งการทำหน้าที่นายทะเบียนบัตรทองนั้น ตามภารกิจแล้วเป็นหน้าที่ของ สปสช.ในฐานะเป็นผู้ซื้อบริการแทนประชาชนอยู่แล้ว โดย 12 ปีที่ผ่านมานั้น กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการแทน เพื่อประโยชน์ประชาชน และขณะนี้ประชาชนคนไทยเกือบทั้งหมดมีหลักประกันสุขภาพแล้ว จะมีเพียงเด็กเกิดใหม่ หรือผู้เปลี่ยนแปลงสิทธิ์ ที่มีจำนวนไม่มากนัก และ สปสช.ไม่น่าจะมีปัญหาในการขึ้นทะเบียนเอง อย่างไรก็ตาม หาก สปสช.ยังไม่พร้อมกระทรวงสาธารณสุขก็ยินดีที่จะดำเนินการให้จนกว่าจะพร้อม

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวทีรับฟังความเห็น โดยสรุปห้องย่อยด้านการมีส่วนร่วมภาคประชาชน ได้มีข้อเสนอจากภาคประชาชนได้แสดงความเห็นต่อกรณีที่ สธ.ให้หน่วยบริการยกเลิกการลงทะเบียนสิทธิ์ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยเสนอให้ สธ.ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว ซึ่งหากไม่ยกเลิกประชาชนจะรวมตัวกันฟ้องกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากจะสร้างผลกระทบให้กับประชาชนอย่างยิ่ง