ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“สมาคมเครื่องมือแพทย์” แฉกลางเวทีสัมมนาปฎิรูประบบสาธารณสุข บ.เอกชนถูก รพ.สธ.เรียกเก็บหัวคิวจัดซื้อยา-เครื่องมือแพทย์ 5-10% หนุนกิจการ รพ. หากไม่ให้ ถูก รพ.เบี้ยวไม่จ่ายเงิน ยันงบประมาณในระบบสาธารณสุขไม่พอและมีการดึงเงินจากภาคเอกชนแทน ถ้างบยิ่งน้อย ก็จะยิ่งเรียกเก็บมาก ชี้ไม่เป็นธรรมกับภาคเอกชน เผยทั้ง สธ.และ รมต.สธ.รับทราบแต่แก้ไขไม่ได้ พร้อมเสนอปฏิรูปสาธารณสุขทั้งระบบ เพิ่มงบประมาณให้เพียงพอ

ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช 

ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช นายกสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ไทย และประธานเครื่องมือแพทย์อาเซียน กล่าวแสดงความเห็น ในเวทีสัมมนา “ปฎิรูประบบสาธารณสุข ภายใต้การปฏิรูปประเทศไทย” ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ร่วมกับคณะกรรมาธิการปฏิรูประบบสาธารณสุข สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ถึงแนวทางการปฏิรูประบบสาธารณสุขว่า การปฏิรูประบบสาธารณสุขจะต้องทำการปฏิรูปทั้งระบบ หากการปฎิรูปข้ามเรื่องใดเรื่องหนึ่งไป การปฏิรูปที่ตั้งใจก็จะไม่เกิดขึ้น หรือผิดรูปแบบจากที่ต้องการไป ระบบก็จะไม่สมบูรณ์ และเมื่อดูปัญหาในระบบสาธารณสุขพบว่า ประเด็นที่ทำให้เกิดปัญหาคืองบประมาณ หากงบประมาณเพียงพอก็จบ แต่ถ้าไม่พอ โรงพยาบาลบางแห่งก็จะมีปัญหา   

ทั้งนี้ในระบบสาธารณสุขปัจจุบัน หากมองความเป็นจริง วันนี้ รพ.อยู่ได้ ส่วนหนึ่งเพราะภาคเอกชน เนื่องจากทุกครั้งที่มีการจัดซื้อจัดจ้าง จะมีการเรียกจากภาคเอกชน 5-10% เพื่อเข้า รพ.ซึ่งปัญหานี้ได้เคยฝากรัฐมนตรีสาธารณสุขมา 3 สมัยแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ดังนั้นจึงอยากฝากปัญหานี้ให้เวทีนี้ว่าเราจะช่วยแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เพราะถ้าภาคเอกชนไม่จ่ายตรงนี้ ทาง รพ.ก็จะไม่จ่ายเงินให้

“วันนี้งบประมาณในระบบสาธารณสุขไม่พอ มีการดึงเงินจากภาคเอกชนแทน ถ้างบประมาณยิ่งน้อยก็จะยิ่งเรียกเก็บจากเอกชนมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้กิจการ รพ.อยู่ได้ ตรงนี้ผมมองว่าไม่เป็นธรรมกับภาคเอกชนอย่างยิ่ง และอยากสมอบถามว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้เอกชนได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้ เพราะไม่ว่าจะขายของ จะเป็นยาหรือเครื่องมือแพทย์ ถูกเรียกเก็บทั้งนั้น 5-10% เพื่อเข้าระบบ รพ.” นายกสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ไทย กล่าว และว่า หากงบประมาณในระบบไม่เพียงพอ รัฐต้องจัดสรรเพื่อให้ รพ.อยู่ได้ ต้องเติมงบให้พอ ไม่ต้องขอจากภาคเอกชน ตอนนี้เราบริจากทุกบิล หากไม่ให้ส่วนนี้ก็จะไม่ได้รับเงิน และในฐานะนายกสมาคมเครื่องมือแพทย์ขอยืนยันว่ามีตรงนี้ กระทรวงสาธารณสุขก็ทราบดี รัฐมนตรีสาธารณสุขก็ทราบดี แต่กลับไม่มีใครแก้ไขปัญหาได้

ภก.จิรศาสตร์ ไชยเลิศ

ด้าน ภก.จิรศาสตร์ ไชยเลิศ เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ไทย กล่าวว่า วันนี้ขอเสนอประเด็นปฎิรูปสาธารณสุขที่อยากให้ดำเนินการต่อเนื่อง คือนโยบายการฝังชิพสุขภาพในบัตรประชาชน เพื่อที่ประชาชนจะเดินทางไปยัง รพ.ใดก็ได้และได้รับการรักษาต่อเนื่อง และอยากให้เดินหน้าร่วมจ่าย เพราะการดูแลสุขภาพต้องเป็นหน้าที่ของประชาชน นอกจากนี้ยังขอให้ลดการนำเข้าเครื่องมือแพทย์ เพราะทุกวันนี้ประเทศไทยมีการนำเข้าทั้งค่ายาและเครื่องมือแพทย์จำนวนมาก จึงอยากให้มีนโยบายชัดเจนว่ารัฐจะส่งเสริมและสนับสนุนอย่างไร