ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายจับตาปฏิรูปสธ. ยื่นหนังสือกมธ.ปฏิรุปสาธารณสุข ค้านข้อเสนอปฏิรูประบบระบบบริหารสาธารณสุข ชี้เป็นข้อเสนอที่ตั้งธงล่วงหน้า ขาดการศึกษา ไม่มีข้อมูลอ้างอิง และไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง เป็นการรวบอำนาจไว้ส่วนกลาง สวนทางทิศทางปฏิรูปประเทศที่ต้องการกระจายอำนาจ เรียกร้องถอนวาระออกก่อน ด้านเลขานุการกมธ.แจงไม่ถอนวาระออก ยันพิจารณารอบคอบ

เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจรายงานว่า วันนี้( 24 มี.ค.)ที่รัฐสภา เครือข่ายจับตาปฏิรูปสาธารณสุข นำโดยนายสุรพงษ์ พรมเท้า พร้อมคณะ เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญสภาปฏิรูปแห่งชาติ ด้านสาธารณสุข ผ่านทาง นพ.ประเสริฐ ศัลย์วิวรรธน์ สมาชิก สปช.และเลขานุการคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ปฏิรูปสาธารณสุข คัดค้านรายงานวาระการปฏิรูประบบบริหารด้านสุขภาพ ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของ สปช.ในวันที่ 25 มีนาคมนี้

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การปฏิรูประบบบริหารด้านสุขภาพด้านดังกล่าว ยังไม่มีการศึกษาที่เป็นระบบและรอบคอบ มีจุดอ่อนของการจัดทำรายงานที่ขาดความเป็นวิชาการ แต่กลับมีการจัดทำข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปโดยไม่มีฐานอ้างอิงและไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง เหมือนมีวาระแอบแฝง เป็นข้อเสนอที่มีธงไว้ล่วงหน้า มีเจตนารมณ์ต้องการรวบรวมอำนาจไว้ที่กระทรวงสาธารณสุข ตรงกันข้ามกับทิศทางสำคัญของการปฏิรูปประเทศ ที่ต้องมุ่งสู่การลดอำนาจส่วนกลางและการกระจายอำนาจให้มากขึ้นจึงขอเรียกร้องให้ถอนวาระการพิจารณาในวันที่ 25 มี.ค.นี้ออกไปก่อน

เครือข่ายฯขอคัดค้านรายงานวาระดังกล่าว และเห็นว่าคณะ กมธ.ปฏิรูปสาธารณสุข ต้องถอนวาระดังกล่าวกลับไปจัดทำการศึกษาและข้อเสนอแนะให้ถูกต้อง เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีส่วนร่วมในการพิจารณาอย่างจริงจังด้วย มิเช่นนั้นอาจทำให้ สปช.ขาดความไว้วางใจจากสาธารณะหากเดินหน้านำเรื่องนี้มาพิจารณา

นพ.ประเสริฐ ศัลย์วิวรรธน์ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญสภาปฏิรูปแห่งชาติ ด้านสาธารณสุข กล่าวว่า ไม่มีการถอนเรื่องดังกล่าวออกจากการประชุมของกมธ.สธ.ในวันพรุ่งนี้แน่นอน เพราะถือเป็นการเริ่มต้นและยังมีอีกหลายกระบวนการต่อจากนี้ในการพิจารณา ทั้งนี้ได้ย้ำว่าจะนำเรื่องร้องเรียนของเครือข่ายฯไปให้ กมธ.สธ.พิจารณา แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าทาง กมธ.สธ.เองก็ต้องมองในภาพกว้างด้วย

"ทางกมธ.ไม่มีการตั้งธงล่วงหน้าแน่นอน และทาง กมธ.สาธารณสุข ยึดเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง แม้ในตอนนี้ภาคประชาชนอาจเห็นว่ายังไม่ได้รับผลประโยชน์เท่าที่ควร แต่ในอนาคตจะมีผลดีต่อภาคประชาชนแน่นอน และยังย้ำด้วยว่าประชาชนจะมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้แน่นอน" นพ.ประเสริฐ กล่าว