ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งในเรื่องของการบริหารงานระหว่างกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ในช่งที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัญหาดังกล่าวได้สร้างความคาใจให้กับโรงพยาบาลในฐานะผู้ที่ต้องทำตามนโยบาย

นพ.สวรรค์ กาญจนะ นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้อำนวยการ รพ.บางชัน และรองผู้อำนวยการ ฝ่ายการแพทย์  รพ.ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช แพทย์ดีเด่น สาขาวิชาการ ประจำปี 2557 จากแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปัจจุบันโรงพยาบาลในพื้นที่ต่างจังหวัดมีปัญหาด้านการขาดแคลนบุคลากรในระดับบริหารงาน จึงได้เข้ามาบริหารงานในโรงพยาบาลทั้งสองแห่ง ซึ่งมีพื้นที่ห่างกันประมาณ 30 กิโลเมตรเท่านั้น สามารถเดินทางไปมาได้สะดวก

เมื่อกล่าวถึงความขัดแย้งของ สธ.และ สปสช. นพ.สวรรค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เข้าเรียนหลักสูตรของผู้บริหารในกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีข้อหนึ่งที่ผู้บริหารพึงมี นั่นคือ การใช้ทศพิธราชธรรม และหลักธรรมาภิบาล เข้ามาบริหารงาน ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นในส่วนตัวมองว่า ทั้ง สธ.และ สปสช. ต่างมีความคิดที่ดี การทำงานที่ผ่านมากว่า 12 ปี ต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้ประโยชน์สูงสุดแก่ปะชาชน เช่น การปรับปรุงงบประมาณในระบบ UC ที่อาจมีผลกระทบต่อโรงพยาบาลในพื้นที่ที่มีจำนวนประชากรน้อย

ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นมาในวันนี้ อยากเห็น สธ. และ สปสช. เดินทางไปด้วยกัน เราสามารถคิดแตกต่างกันได้  แต่เมื่อเรามาอยู่ในระดับบริหารแล้ว เมื่อมีความคิดต่างกัน จะต้องหันหน้ามาพูดคุยกัน เพราะทุกคนต่างรู้จักกัน เป็นพี่เป็นน้องกัน อย่าง นพ.รัชตะ ก็รู้จักในฐานะอาจารย์ นพ.ณรงค์ รู้จักในฐานะผู้บังคับบัญชา หรือแม้แต่หมอในชมรมแพทย์ชนบท พวกเราต่างรู้จักกันทั้งนั้น จึงไม่อยากให้มีการเลือกข้างเกิดขึ้น

“ผมอยากจะบอกถ้าหากจะให้เลือกข้าง ผมจะเลือกข้างประชาชนเท่านั้น” นพ.สวรรค์ กล่าว

นพ.สวรรค์ กล่าวว่า ในวันนี้โลกเปลี่ยนไป เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลง ต้องดูว่า อะไรมีความเหมาะสม สธ.และ สปสช. ต่างมีคนเก่งด้วยกัน แต่เราไม่ได้นำคนเก่งเหล่านี้มาทำงานร่วมกัน ในทางตรงข้ามคือ ทั้งสองหน่วยงานต่างคนต่างทำงาน ไม่ร่วมมือกัน สิ่งที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่เป็นเรื่องของความเห็นที่ต่างกัน การแก้ปัญหา คือ การพูดคุยกัน เราจะทำทุกอย่างได้ ต้องมีความเข้าใจ  เชื่อว่าทุกคนที่เข้ามาทำงานในส่วนนี้ทั้ง สธ. และ สปสช. ต่างมีความคิดเหมือนกันว่า จะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความสุข

“ถ้าเราเลือกเป้าหมายการทำงาน คือ ประชาชนเป็นหลักแล้ว เราควรจะเดินไปได้ด้วยกัน มีคำตอบได้ เพราะเราเดินไปทางเดียวกัน หากผู้บริหารทุกฝ่ายมีความเชื่อในความหวัง และในวันที่ทุกคนมีความรัก ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้น”นายแพทย์ดีเด่น กล่าว

นพ.สวรรค์ กล่าวว่า การเป็นบริหารที่ดีต้องมีความซื่อสัตย์ และมีหลักธรรมาภิบาล หากผู้บริหารทุกคนมีสิ่งที่กล่าวมาแล้ว เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะไม่จบลงเอยด้วยความ “ขัดแย้ง” ทั้งนี้ในส่วนตัวคิดว่า หากเป็นไปได้ อยากจะเป็นตัวเชื่อมให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาพูดคุยกัน ต้องมีการเจรจากัน และที่สำคัญต้องมีความคิดบวก

นอกจากนี้ นพ.สวรรค์ ยังได้กล่าวถึงกรณี ที่แพทยสภาออกโรงมาคัดค้าเรื่อง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายทางการแพทย์ ว่า เรื่องนี้เห็นด้วยกับความคิดของ นพ.ศุภชัย คุณารัตนพฤษ์ กรรมการแพทยภาพ ที่ต้องมีการปฏิรูปกฎหมายออกมาคุ้มครองประชาชน แต่ต้องยึดความเป็นธรรมเป็นหลัก ให้ดูที่เนื้อหาของกฎหมายก่อน แต่เห็นด้วยที่จะมีกฎหมายที่คุ้มครองทั้งแพทย์ ประชาชน