ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองโฆษกรัฐบาลเผยนายกรัฐมนตรีมอบ ก.การคลังจัดทำรายละเอียดการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้สูงวัยรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ยากไร้ เหตุไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แม้จะมีเบี้ยยังชีพ และกองทุนการออม แต่ก็ยังไม่พอ

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด

วันนี้ (20 เม.ย.58) เวลา 14.00 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมฯ ถึงเรื่องที่นายกรัฐมนตรีปรารภและสั่งการต่อที่ประชุมฯ

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงข้อมูลผู้สูงอายุที่ผ่านมาของประเทศไทยว่า มีจำนวนมากขึ้น ซึ่งเงินที่จะช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุก็มาจากกองทุนช่วยเหลือผู้สูงอายุที่รัฐบาลมอบให้กับผู้สูงอายุเป็นรายเดือน ประมาณคนละ 500, 600, 800 บาท ตามเงื่อนไขของแต่ละคน รวมทั้งกองทุนการออมแห่งชาติ แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมดยังไม่เพียงพอเพราะในอนาคตประเทศไทยเราจะก้าวเข้าสู่ประเทศที่มีจำนวนผู้สูงอายุมากขึ้น

“เพราะฉะนั้น นายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมอบกระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักไปพิจารณาและจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้สูงวัย โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้สูงวัยที่เป็นผู้ยากไร้ได้อย่างไรบ้าง ขณะเดียวกันในเรื่องการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้สูงวัยที่ยากจนนั้นจะต้องมีมาตรการกำกับผู้สูงวัยที่จะเข้ามาอยู่ในกองทุนนี้ด้วย” รองโฆษกฯ กล่าว