ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

‘นพ.มงคล’ โพสต์ Facebook ย้ำ 30 บาท ทำให้คนไทยทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นคน ก่อนหน้ามี 30 บาท คนจนต้องใช้สิทธิ์ผู้มีรายได้น้อย เป็นคนไข้อนาถา หลังมี 30 บาท คนจนคนรวยเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข เอาภาษีที่จ่ายมาช่วยเหลือเกื้อกูล แจงค่าใช้จ่าย 30 บาท ยังต่ำกว่าประกันสังคมและสวัสดิการข้าราชการ แนะยกระดับบริการให้มีประสิทธิภาพดีกว่า อย่าโยนบาปให้คนจนกลายเป็นคนไข้อนาถา ไม่เห็นด้วยร่วมจ่าย เพราะสร้างภาระให้คนจน

นพ.มงคล ณ สงขลา

นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์ Facebook ส่วนตัว เมื่อวันที่ 25 เม.ย.58 แสดงความคิดเห็น กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ระบุให้คนรวยเสียสละไม่ใช้สิทธิ์ 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่อทำกุศลให้คนจน (ดูข่าว ที่นี่) ระบุว่า ก่อนหน้าที่ประเทศไทยจะมีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาทรักษาทุกโรคนั้น ไทยมีโครงการผู้มีรายได้น้อย แม้ว่าคนจนไม่ต้องเสียเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล แต่ต้องแสดงบัตรยากไร้ จะแสดงตนแต่ละครั้ง ก็ต้องอายสายตาใครต่อใครที่ถูกกำหนดว่าเป็นผู้ป่วยอนาถา รายได้น้อย แต่เมื่อมีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่เริ่มด้วย 13 จังหวัดในปี 2544 และครบทุกจังหวัดในปี 2545 ทำให้คนไทยทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นคน เพราะเป็นสิทธิของประชาชนทุกคน เป็นการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข เอาภาษีที่จ่ายมาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ใช้มากใช้น้อยไม่สำคัญเท่าเกื้อกูลกัน มีการบริหารจัดการอย่างประหยัด และเห็นผลชัดเจนว่า ความยากจนและล้มละลายจากการเจ็บป่วยลดลงอย่างมาก

นพ.มงคล ระบุต่อว่า เกือบ 15 ปีที่เริ่มหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า แม้ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะสูงขึ้นมาก แต่จะไปโทษว่าคนใช้บริการฟุ่มเฟือยนั้น ไม่น่าจะถูกต้อง อีกทั้งค่าใช้จ่ายในระบบ 30 บาท ก็ต่ำกว่า ประกันสังคมและสวัสดิการข้าราชการอยู่มาก หากตรวจสอบให้ดี อาจเป็นเพราะพัฒนาบริการไม่ทันจึงทำให้ค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่ควรจะเป็น

“ขอให้หันมายกระดับการบริหารให้มีประสิทธิภาพดีกว่า อย่าโยนบาปให้คนจนให้กลายเป็นคนอนาถา ต้องก้มหน้ามุดๆ ไปรับบริการที่โรงพยาบาลอีกเลยครับ การร่วมจ่ายแม้จะไม่มาก แต่สำหรับคนจนอัตราส่วนต่อรายได้ยังสูง เพราะค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเมื่อป่วยแต่ละครั้งยังต้องจ่ายอีกมาก ขอความเมตตาช่วยกันคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจให้ประชาชนร่วมจ่ายหรือสงเคราะห์คนจนเป็นคนอนาถาเถอะครับ เพราะค่ารักษาพยาบาลของระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าต่ำกว่าระบบประกันสังคมและสวัสดิการข้าราชการมากอยู่แล้วครับ" นพ.มงคล ระบุ

ทั้งนี้ ข้อความทั้งหมด มีดังนี้

"แพทย์รุ่นโบราณที่เคยทำงานที่สถานีอนามัยชั้นหนึ่ง ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นศูนย์การแพทย์อนามัย และสุดท้ายเป็นโรงพยาบาลชุมชน คงจำได้ว่าก่อนที่ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช จะให้สิทธิรักษาพยาบาลฟรีแก่ผู้มีรายได้น้อย คนยากจนกำเงินไปโรงพยาบาลเพื่อจ่ายค่ารักษา มือที่กำเกร็ง เหงื่อออกมาเม็ดเป้งๆ ไม่ใช่เพราะร้อน แต่เพราะเงินที่กำเพิ่งไปกู้เขามาเพื่อซื้อชีวิตญาติที่ป่วย ถ้าไม่มีจริงๆ โรงพยาบาลจะแทงเป็นผู้ป่วยอนาถา และให้คนไข้หรือญาติเซ็นต์รับรอง

ต่อมามีโครงการผู้มีรายได้น้อย คนจนไม่ต้องเสียเงินค่ารักษาพยาบาลแต่ต้องแสดงบัตรผู้ยากไร้ จะแสดงตนแต่ละครั้ง เขาเหล่านั้นเจ็บปวดรวดร้าว เพราะอายต่อสายตาของใครต่อใครที่ถูกกำหนดว่าเป็นผู้ป่วยอนาถา รายได้น้อย

โครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่เริ่มด้วย 13 จังหวัดในปี 2544 และเต็มทุกจังหวัดในปี 2545 มาจนทุกวันนี้ ทำให้คนไทยทุกคนมีศักดิ์ศรีของความเป็นคน

ผลการวิจัยปรากฏชัดว่าความยากจน ล้มละลายจากการเจ็บป่วยลดลงอย่างมากทุกภาค คนจนคนรวยเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข เอาภาษีที่จ่ายมาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ใช้มากใช้น้อยไม่สำคัญเท่าเกื้อกูลกัน มีการบริหารจัดการอย่างประหยัด บางช่วงยามะเร็ง ยาโรคหัวใจ ยาโรคเอดส์แพงมาก เราก็ช่วยกันทำ CL ยาราคาลดลง 70% เราเอาเงินที่เหลือมาช่วยล้างไตผู้ป่วยไตวาย ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ผู้สูงอายุผู้พิการ

เกือบ 15 ปี ที่เริ่มโครงการประกันสุขภาพกันมา ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ยอมรับว่าสูงขึ้นมาก จะไปโทษว่าคนใช้บริการฟุ่มเฟือยมากเกินเหตุ คงไม่ถูกต้อง เพราะไม่มีใครอยากไปโรงพยาบาลแน่นอน แต่ตรวจสอบให้ดีเถอะ เกือบ 15 ปีที่ระบบเกิดขึ้นมา การพัฒนาการบริการไม่ทันการเปลี่ยนแปลงจึงทำให้ค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่ควรจะเป็น

ขอให้หันมายกระดับการบริหารให้มีประสิทธิภาพดีกว่า อย่าโยนบาปให้คนจนให้กลายเป็นคนอนาถา ต้องก้มหน้ามุดๆ ไปรับบริการที่โรงพยาบาลอีกเลยครับ การร่วมจ่ายแม้จะไม่มาก แต่สำหรับคนจนอัตราส่วนต่อรายได้ยังสูง เพราะค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเมื่อป่วยแต่ละครั้งยังต้องจ่ายอีกมาก ขอความเมตตาช่วยกันคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจให้ประชาชนร่วมจ่ายหรือสงเคราะห์คนจนเป็นคนอนาถาเถอะครับ เพราะค่ารักษาพยาบาลของระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าต่ำกว่าระบบประกันสังคมและสวัสดิการข้าราชการมากอยู่แล้วครับ"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ขอคนรวย หรือกลางๆ สละสิทธิ์ใช้ 30 บาท ยกให้คนยากจน ชี้เป็นกุศล

ซัด นายกฯ ตื้นเขิน มองคนไม่เท่ากัน ทำ 30 บาทอนาถา ท้า ขรก.ระดับ 10 เสียสละไม่ใช้สิทธิรักษาก่อน

ยันสุขภาพเป็นสิทธิพื้นฐาน ไทยมาไกลเกินกลับไปเป็นสงเคราะห์

‘นพ.รัชตะ’ ชี้นายกฯ ห่วงงบรักษาพยาบาลเพิ่ม หนุนคนรวยบริจาคให้กองทุน 30 บาท