ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมว.สธ. เผยความสำเร็จโครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างและปรับปรุงห้องส้วมในรร.ถิ่นทุรกันดารครบเป้าหมาย 60 แห่งก่อนกำหนด เตรียมขยายโครงการระยะที่ 2 เพิ่มอีก 60 แห่ง ในพื้นที่ 28 จังหวัดภายในปี 2558 พร้อมเชิญชวนองค์กรภาครัฐ เอกชน ประชาชนร่วมสนับสนุนเงินทุน อุปกรณ์ วัสดุ เพื่อให้เด็กนักเรียนมีสุขภาพดี เรียนได้เต็มที่

ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย แถลงข่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้สนองพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงให้ความสำคัญต่อสุขภาพอนามัยเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารควบคู่ไปกับด้านการศึกษา ให้เรียนหนังสือได้โดยไม่หิวหรือเจ็บป่วย โดยได้จัดทำโครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่และเด็ก เยาวชนในถิ่นทุรกันดารมากว่า 19 ปี เพื่อให้ความรู้ ดูแลส่งเสริมสุขภาพทั้งด้านโภชนาการ สุขอนามัย ทันตสุขภาพ รวมถึงดูแลสิ่งแวดล้อม น้ำบริโภคและส้วมในโรงเรียนให้เอื้อต่อการมีสุขภาพดี ส่งผลให้สุขภาพของเด็กและเยาวชนดีขึ้นตามลำดับ

นอกจากนี้ ได้เร่งดำเนินการสนองพระราชกระแสรับสั่งที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดูแลบริหารจัดการน้ำดื่มในโรงเรียนอย่างจริงจัง และให้มีส้วมเพียงพอต่อการใช้งานในโรงเรียนถิ่นทุรกันดาร โดยจัดทำโครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างปี 2557 -2558 เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 ตั้งเป้าสร้างและปรับปรุงส้วมโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่เป้าหมายตามพระราชดำริฯ จำนวน 60 แห่งทั่วประเทศ รวม 600 ส้วม ให้ได้มาตรฐาน ได้แก่ รร.ตำรวจตระเวนชายแดน 30 แห่ง รร.พระปริยัติธรรมจำนวน 10 แห่ง รร.เอกชนสอนศาสนาอิสลาม 10 แห่ง และศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง 10 แห่ง

ศ.นพ.รัชตะ กล่าวต่อว่า โครงการปรับปรุงและสร้างส้วม 60 แห่งแรกประสบผลสำเร็จบรรลุเป้าหมายเมื่อเดือนเมษายน 2557 โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน สนับสนุนทุน วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ขยายโครงการฯในระยะที่ 2 ในโรงเรียนเป้าหมายตามพระราชดำริฯ ที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร อีก 60 แห่งใน 28 จังหวัด ตั้งเป้าหมายครบ 120 แห่งภายในปี 2558 เพื่อร่วมพัฒนาสุขภาพอนามัยเด็กและประชาชนในพื้นที่ทุรกันดารให้มีสุขภาพดี เนื่องจากส้วมเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต และป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี จึงขอเชิญชวนหน่วยงาน องค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมสนับสนุนโครงการฯ โดยแจ้งความประสงค์ได้ที่สำนักอนามัยและสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย โทร 02 5904128

นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ผลการสำรวจภาวะสุขภาพนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ของกรมอนามัย ในปี 2556 พบว่า ยังต้องเร่งช่วยกันพัฒนาในหลายด้าน เพื่อช่วยให้เด็กมีร่างกายสมบูรณ์ พร้อมศึกษาเล่าเรียนอย่างเต็มที่ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่เจ็บป่วย โดยพบว่านักเรียนประถมเตี้ยร้อยละ 8 มีเหาร้อยละ 73 ฟันแท้ผุร้อยละ 53 ส่วนโรงเรียนพบว่ามีน้ำดื่มไม่เพียงพอร้อยละ 16 ไม่ได้ปรับปรุงคุณภาพน้ำร้อยละ 34 น้ำบริโภคไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานร้อยละ 83 ส้วมไม่ได้มาตรฐาน กล่าวคือไม่สะอาดร้อยละ 35 มีกลิ่นเหม็นร้อยละ 48 สภาพชำรุดร้อยละ 21 เป็นต้น โดยกรมอนามัยได้จัดอบรมปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกต้อง การดูแลรักษาความสะอาด การล้างมือ สอนการแปรงฟันแก่นักเรียนและบุคลากรโรงเรียน เพื่อดูแลเด็ก รวมทั้งพัฒนาด้านโภชนาการโรงเรียน และดูแลมาตรฐานน้ำบริโภค

ทั้งนี้ ในวันนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบทุนสนับสนุนโครงการระยะที่ 2 จากผู้แทนบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) บริษัทสยามซานิทารีแวร์ จำกัด บริษัทสตาร์ ซานิทาแวร์ จำกัด (มหาชน) บริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) นางสาวลีลานุช สุเทพารักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมอนามัย