ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2558 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมหน่วยงานในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อวางมาตรการความพร้อมการป้องกันโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หลังจากที่ประเทศเกาหลีใต้กำลังเผชิญปัญหาการแพร่ระบาด มีผู้ป่วยมากเป็นอันดับ 2 รองจากประเทศซาอุดิอาระเบีย สถิติการป่วยจนถึงวันที่ 7 มิถุนายน 2558 ผู้ป่วยรวม 122 คน เสียชีวิต 10 ราย จุดแพร่ระบาดอยู่ที่โรงพยาบาล โดยสถานการณ์ทั่วโลกตั้งแต่ 2555 เป็นต้นมา ถึง 7 มิถุนายน 2558 ยืนยันผู้ติดเชื้อ 1,211 ราย เสียชีวิตรวม 492 ราย อัตราป่วยตายทั่วโลกร้อยละ 40 โรคนี้ยังไม่มียารักษา ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน  

นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการเฝ้าระวังโรคนี้มาตั้งแต่พ.ศ.2556 ยังไม่พบผู้ป่วย ในปี 2557 ได้คัดกรองผู้ที่มีอาการป่วย 66 คน และปี 2558 พบผู้ที่มีอาการป่วยหลังเดินทางกลับจากตะวันออกกลาง 11 คน และประเทศเกาหลีใต้ 9 คน อยู่ที่กทม. 4 คน มหาสารคาม 2 คน นครปฐม สมุทรปราการ และลำปาง จังหวัดละ 1 คน ผลการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการไม่พบติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ ทั้งนี้ต่อปีจะมีคนไทยเดินทางไปเกาหลีใต้ประมาณ 40,000 คน และมีนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้มาไทยวันละประมาณ 3,000 - 4,000 คน กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมออกประกาศให้โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง เป็นโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2523 ตามคำแนะนำของคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านวิชาการและยุทธศาสตร์ เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะลงนามประกาศใช้โดยเร็ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้คล่องตัวยิ่งขึ้น            

การประชุมในวันนี้ ได้ให้โรงพยาบาลทุกแห่งทั้งภาครัฐและเอกชนรวมทั้งคลินิกยึดแนวปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ให้จัดจุดตรวจรักษาผู้ป่วยนอกที่มีอาการไข้ ไอ โดยเฉพาะ และซักประวัติการเดินทางไปต่างประเทศทุกราย จัดเตรียมห้องแยก เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีอาการอยู่ในข่ายสงสัยติดเชื้อโดยเฉพาะ และดูแลตามมาตรฐาน สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันโรคให้เพียงพอ จัดอบรมบุคลากรการแพทย์ละสาธารณสุข ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด กระตุ้นซักซ้อมให้มีความพร้อมมากยิ่งขึ้น ขณะนี้กรมการแพทย์ได้จัดแพทย์เชี่ยวชาญด้านการดูรักษาโรคทางเดินหายใจเป็นที่ปรึกษาแก่แพทย์ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง          

ผู้ป่วยที่มีอาการในข่ายสงสัยทุกราย จะส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ซึ่งมีจำนวน 15 แห่ง ขณะนี้มีความพร้อม สามารถตรวจยืนยันได้ 5 -8 ชั่วโมง หากพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ จะต้องแจ้งสำนักระบาดวิทยา หรือหน่วยสอบสวนเคลื่อนที่เร็วสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทันที และดำเนินการติดตามผู้สัมผัสผู้ป่วยให้ได้ทุกคนและติดตามอาการผู้สัมผัส 14 วัน เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัด ประชาชนที่มีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งมี 30 คู่สาย  

นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า การที่ต้องออกประกาศให้โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง เป็นโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ 2523 จะมีผลดีต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมป้องกันโรคโดยกำหนดให้โรคนี้เป็นโรคที่ต้องแจ้งความภายใน 24 ชั่วโมง หากไม่แจ้งความมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท โรงพยาบาลและคลินิกทุกแห่ง หากพบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าข่ายติดเชื้อโรคนี้ คือมีไข้สูง ไอ หายใจหอบ มีประวัติเดินทางจากระเทศที่มีการระบาดหรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการเช่นเดียวกันในช่วง14 วัน จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิดและวินิจฉัยโรคอย่างรวดเร็ว และเข้าสู่ระบบการป้องกันควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขทุกราย พร้อมกันนี้กรมควบคุมจะประชุมร่วมกับสายการบินทุกแห่ง บริษัททัวร์ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจในมาตรการป้องกันโรคนี้เป็นมาตรฐานเดียวกันเป็นการสร้างความมั่นใจให้ประชาชนไทย