ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นสพ.โพสต์ทูเดย์ : ความเคลื่อนไหวที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ภายหลังคำสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ของ นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และภายหลังรายงานการสอบสวนความผิดกรณีไม่สนองนโยบายรัฐบาลของ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. ส่งถึงมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

เพราะผลการสอบสวนไม่ได้ระบุชัดว่า "หมอณรงค์" ผิดอะไร ด้วยเหตุนี้บิ๊กตู่จึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะย้ายให้ นพ.ณรงค์ กลับบ้านเก่าที่กระทรวงหมอ

อย่างไรก็ตาม หลังจากข่าวดังกล่าวเล็ดลอดออกมา ความเคลื่อนไหวจากกลุ่มที่หายไปนานอย่าง "ชมรมแพทย์ชนบท" ก็ตามมาทันที

หลักฐานการทุจริตของ นพ.ณรงค์ ถูกยื่นจากหมอชนบท ถึงมือ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข ทั้งเรื่องการเบิกค่ารถประจำตำแหน่งปีละ 3.8 แสนบาท โดยที่ใช้รถส่วนกลาง ทั้งเรื่องการบิดเบือนข้อมูลโรงพยาบาลขาดทุน ไปจนถึงเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศโดยไม่ขออนุญาต

นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ยอมรับตรงๆ ว่าเป็นการสกัดกั้นไม่ให้ ปลัด สธ.คัมแบ็ก เพราะหากกลับมาอาจสร้างความวุ่นวายได้

ก่อนหน้านี้ แม้หมอณรงค์จะต้องระหกระเหินไปอยู่ที่สำนักนายกฯ อยู่นาน แต่ก็มีกระแสข่าวอยู่ตลอดว่า นพ.ณรงค์ ยังคงวิ่งเต้นผ่าน "เพื่อนรัก" ที่เรียนวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) 51 ด้วยกัน อย่าง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม และ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมตรีและประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ต่อเนื่อง

จึงอาจเป็นเหตุผลให้ นพ.วินัย ติดโผรายชื่อข้าราชการที่ถูกเด้งฟ้าผ่า เพราะการตรวจสอบการใช้เงินของ สปสช. อยู่ในการดูแลของทั้ง คตร.และการดูแลของศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ที่ พล.อ.ไพบูลย์ เป็นประธาน

หักหน้า ศ.นพ.รัชตะ ที่เป็นทั้ง รมว.สธ. และประธานบอร์ด สปสช.  ผู้บังคับบัญชาโดยตรง เพราะไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนว่าจะมีการเด้งหมอวินัย

สุดท้าย จึงร่ำลือกันถึงขั้นว่ามีการนัดคุยระหว่าง พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และฝ่าย ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สธ. และ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สธ. ว่าหากรัฐบาลตัดสินใจเอาปลัดกลับมา พวกเขา 3 คน จะขอลาออก

หากดึงปลัดณรงค์กลับมา ก็เท่ากับ ปลด 1 รองนายกฯ 2 รัฐมนตรี แลก 1 ปลัด !

อย่างไรก็ตาม มีความพยายามหย่าศึก โดยขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นตัวกลาง เรียกประชุมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.ไพบูลย์ ยงยุทธ และ ศ.นพ.รัชตะ

จนนายกฯ ขีดเส้นตายให้ตรวจรายงานสอบสวนปลัดณรงค์ให้จบใน 15 วัน โดยในห้วงเวลา 15 วันนี้เอง ก็ให้เริ่มกระบวนการสอบสวนการทุจริตของปลัดณรงค์ที่หมอชนบทได้ไปยื่นหลักฐานไว้ด้วย

จึงเป็นที่มาของการเปลี่ยนรักษาการปลัด สธ. จาก นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย เป็น นพ.อำนวย กาจีนะ รองปลัด สธ.อีกคนตำแหน่งรักษาการปลัด สธ. จะเป็น คีย์แมนสำคัญในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนการทุจริตของ นพ.ณรงค์ และก็แว่วว่าหมอรัชตะได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งหมออำนวยให้เป็นประธานสอบหมอณรงค์ไว้เรียบร้อยแล้ว

นอกจาก คุณหมออำนวย จะมีสถานะเป็นเพื่อน วปอ.50 รุ่นเดียวกับ "บิ๊กตู่" แล้ว หมออำนวย ยังเป็นคู่ปรับคนสำคัญปลัดณรงค์

แค้นกันมานาน เพราะ "หมออำนวย" ขึ้นไลน์รองปลัด โดยไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากตัวหมอณรงค์ เมื่อปลัดมีอำนาจเต็ม เขาจึงไม่มอบหมายงานใดๆ ให้หมออำนวยทำแม้แต่ชิ้นเดียว

แต่ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หากปลัดนกหวีดทองคำกลับถิ่นเดิม ข้อแรกคือ ความขัดแย้งที่เคยเพลาลง หลังปลัดถูกย้าย จะกลับมาฮึ่มๆ กันอีกครั้งแน่นอน

ข้อที่สอง การจัดการเงินในกองทุนแสนล้านของ สปสช.ก็จะสั่นคลอนตามไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาบ่นดังๆ ว่า ไม่เห็นด้วยกับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เพราะประเทศไทยอาจ "ไม่พร้อม"

และข้อสุดท้าย ขั้วอำนาจที่เคยหันไปพินอบพิเทาตระกูล ส. สปสช. และแพทย์ชนบท หลังการเด้งปลัดณรงค์ จะกลับไปโตที่ฝั่งโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ซึ่งอยู่ฝั่งปลัดอีกครั้ง

ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะทุบโต๊ะให้ นพ.ณรงค์ กลับมาหรือไม่

แต่ที่เกิดขึ้นแล้วในรัฐบาลทหาร ก็คือเวลานี้นาฬิกาในกระทรวงหมอวนเข็มกลับมาที่เดิม ที่ "คนดี" เผชิญหน้ากับ "คนดี" อีกรอบ

ตอนแรก คนดีฝั่งตระกูล ส.เข้าหาอำนาจได้เก่งกว่า ได้ตำแหน่งทั้งผู้อยู่เบื้องหลังรัฐมนตรีและรัฐมนตรี รวมถึงสภาปฏิรูปแห่งชาติ แต่ผ่านมาไม่กี่เดือน คนดีฝั่งข้าราชการประจำ ก็เข้าหาศูนย์กลางอำนาจชุดเขียวได้เก่งพอกัน

สะท้อนให้เห็นว่า เรื่องที่สำคัญในยุคนี้ ก็คือ "คนดี" กลุ่มไหน วิ่งเข้าหาศูนย์กลางอำนาจได้เก่งกว่าเท่านั้นเอง!

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 3 กรกฎาคม 2558