ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

‘สุภัทรา’ กมธ.สาธารณสุข สปช. ปัดเอี่ยว รายงานแนวทางปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ฉบับที่เสนอ กมธ.เศรษฐกิจ สปช. ที่สนับสนุนประชาชนทำประกันสุขภาพเอกชน แล้วให้บัตรทองช่วยเฉพาะคนจน 15 ล้านคน ยันหลักการเดิม ระบบหลักประกันสุขภาพต้องเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานประชาชน พร้อมระบุ “ประภาศรี” ออกจาก กมธ.สาธารณสุขแล้ว ย้ำ ข้อเสนอระบบการเงินการคลังสุขภาพ ต้องเป็นความเห็น กมธ.ร่วมพิจารณา 

น.ส.สุภัทรา นาคะผิว

น.ส.สุภัทรา นาคะผิว สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูประบบสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ มีการนำเสนอรายงานเรื่อง “แนวทางการปฏิรูประบบการประกันสุขภาพ” ต่อ กมธ. ปฏิรูปเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สปช. เพื่อพิจารณา โดยมีสาระสำคัญที่เน้นการส่งเสริมการประกันสุขภาพของบริษัทประกันชีวิต และการจำกัดให้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) เป็นสิทธิ์การรักษาที่จำกัดเฉพาะคนจนเพียง 15 ล้านคน ว่า เป็นเพียงรายงานที่นำเสนอต่อ กมธ.เศรษฐกิจ เพื่อพิจารณาเท่านั้น ซึ่งเรื่องระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพได้มีการตั้ง กมธ.ร่วมจากหลายคณะเพื่อพูดคุย แต่ทั้งนี้ปกติ กมธ.จะนำเสนอเรื่องใดก็ได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหารและรัฐบาลว่าจะรับฟังหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีหลายข้อเสนอที่ กมธ.สปช.เสนอไปก็ไม่ได้รับการตอบรับ อย่างเช่น ข้อเสนอด้านพลังงาน อย่างไรก็ตามก็งงว่ารายงานฉบับนี้มาได้อย่างไร แต่ก็สามารถโยงไปเศรษฐกิจ เพราะมองเป็นเรื่องภาระค่าใช้จ่ายประเทศ  

น.ส.สุภัทรา กล่าวว่า ส่วนในรายละเอียดที่ให้จำกัดบัตรทองเป็นสิทธิเฉพาะคนจนนั้น มองว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเราเลยจากจุดนั้นมานานแล้ว โดยได้เปลี่ยนจากสงเคราะห์รักษาพยาบาลมาเป็นสิทธิขึ้นพื้นฐาน หากทำแบบนั้นจริงก็คงถือว่าถอยหลังเข้าคลอง และที่ผ่านมาก็มีการตั้งโจทย์หลายเรื่อง โดยเฉพาะการแยกแยะระหว่างคนจนและคนมีเงินจะทำอย่างไร ซึ่งหลักการของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าก็คือการทำให้ทุกคนเข้าถึงการรักษาได้อย่างทั่วถึง และต้องไม่ประสบต่อภาวะล้มละลายจากเหตุค่ารักษาพยาบาล เรียกว่าเป็นการลงทุนสุขภาพระยะยาวของรัฐ เพราะจะทำให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี มีค่าใช้จ่ายเหมาะสม สุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นภาระครอบครัวตนเองและสังคม 

ต่อข้อซักถามว่า รายงานฉบับนี้เป็นการนำเสนอของ กมธ.สาธารณสุข สปช.หรือไม่ เนื่องจากมีชื่อของ นางประภาศรี สุฉันทบุตร กมธ.สาธารณสุข สปช. เป็นผู้นำเสนอ น.ส.สุภัทรา กล่าวว่า นางประภาศรีได้ลาออกจาก กมธ.สาธารณสุข สปช.แล้ว โดยอยู่ใน กมธ.เศรษฐกิจ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องของ กมธ.เศรษฐกิจ ไม่ใช่ กมธ.สาธารณสุข