ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมว.สธ.หารือ รมว.ท่องเที่ยว ทำยุทธศาสตร์เมดิคัลฮับ และการท่องเที่ยวสุขภาพ พร้อมสร้างความเข้มแข็งเฝ้าระวังโรคติดต่อ สร้างหลักประกันสุขภาพให้นักท่องเที่ยวกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน เล็งขยายวีซ่าให้เมียนมาร์และจีนที่มารักษาพยาบาลเป็น 60 วัน หลังจากก่อนหน้านี้ขยายให้ 6 ประเทศตะวันออกกลางจาก 30 วัน เป็น 90 วัน

วันนี้ (13 กรกฎาคม 2558) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬาและคณะ หารือการพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการรักษาพยาบาลและการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ

ศ.นพ.รัชตะ ให้สัมภาษณ์ว่า การหารือในครั้งนี้ สนับสนุนการส่งเสริมศักยภาพด้านสุขภาพ และแพทย์แผนไทย ให้เป็นศูนย์กลางด้านการรักษาพยาบาลและการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพของภูมิภาค กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีนโยบายสนับสนุนเรื่องนี้ ส่วนกระทรวงสาธารณสุขก็ดำเนินงานหลายด้านเสริมกัน โดยจะมีการกำหนดยุทธศาสตร์ พร้อมเชิญภาคเอกชนร่วมวางแผนระยะสั้น กลาง และยาว พัฒนามาตรฐานโรงพยาบาลให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล และสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว อาทิ ความเข้มแข็งในการเฝ้าระวังโรคติดต่อ การสร้างหลักประกันสุขภาพแก่นักท่องเที่ยวกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน และการอำนวยความสะดวกด้านอื่นๆ เช่น การขยายวีซ่าแก่ผู้เดินทางมารักษาพยาบาล โดยที่ผ่านมาดำเนินการในกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับตะวันออกกลาง 6 ประเทศ ได้แก่ คูเวต บาเรนห์ โอมาน การ์ตาร์ ซาอุดิอาระเบีย และอาหรับเอมิเรสต์ ขยายจาก 30 วันเป็น 90 วัน อนุญาตผู้ป่วยและญาติรวม 4 คน กระทรวงสาธารณสุขจะหารือกับกระทรวงต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขยายเวลาแก่ประเทศอื่นที่ต้องการเข้ามารักษาในประเทศไทยต่อไป

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ให้ความสนใจเรื่องการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ โดยจะตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานร่วมกัน เพื่อกำหนดนโยบายและแผนปฏิบัติการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวเช่นกัน

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา กล่าวว่า การรักษาพยาบาลและการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ เป็นจุดขายอันดับหนึ่งของประเทศ จึงต้องสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน เน้นคุณภาพเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องทำงานร่วมกันกับหน่วยงานเอกชน โดยต้องไม่ลืมมาตรฐานสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น อาหาร ห้องน้ำ ตลาดสด เบื้องต้นเน้น 12 เมืองที่ห้ามพลาด นอกจากนี้ควรมุ่งพัฒนาสมุนไพรไทยและผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดจากภูมิปัญญาชาวบ้านให้เป็นจุดขายด้วย

ด้าน นสพ.คมชัดลึก ฉบับวันที่ 14 ก.ค. 58 รายงานว่า ในการหารือมีการพิจารณาถึงการขอวีซ่าและขยายเวลาพำนักในไทยกรณีเข้ามารับการรักษาพยาบาลสำหรับกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ ได้แก่ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้สามารถพำนักในประเทศไทยรวม 90 วัน โดยขณะนี้วีซ่านักท่องเที่ยวชาวเมียนมาร์พำนักในไทยได้ครั้งละ 60 วัน ขณะที่ชาวจีนพำนักในไทยไม่เกิน 15 วัน ทั้งนี้ต้องมีการทำงานร่วมกับกระทรวงต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศไทยได้อนุมัติให้มีการขยายเวลาพำนักในประเทศไทยเพื่อการรักษาพยาบาลในรัฐอ่าวอาหรับ 6 ประเทศ คือ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ โดยอนุญาตให้ผู้ป่วยและผู้ติดตามรวม 4 ราย พำนักอยู่ได้ 90 วัน