ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมว.สธ.มอบเกียรติบัตรงานนวัตกรรมการแพทย์ไทยฝีมือคนไทย เผยหลังการจัดงานนวัตกรรมหลายรายการมียอดสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น เฉพาะวันแรกมีการเจรจาซื้อขายมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท จับคู่ธุรกิจ 52 รายการ มีนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เยอรมัน ออสเตรเลีย ให้ความสนใจ ตั้งเป้าพัฒนานวัตกรรมการแพทย์ฝีมือคนไทยเพื่อเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพของภูมิภาคอาเซียนได้ในอนาคต

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2558 ณ ฮอลล์ 9 อาคารอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรงานตลาดนัดนวัตกรรมการแพทย์ไทย MedI Thai: Medical Innovation of Thailand “ผลิตภัณฑ์จากแนวคิด สิ่งประดิษฐ์ด้านการแพทย์” พร้อมมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้ร่วมแสดงผลงานนวัตกรรมทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 200 แห่ง

ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ ระหว่างวันที่ 18-20 สิงหาคม ตลอดระยะเวลา 3 วัน มีผู้เข้าร่วมงานมากว่า 4,000 คน จากการประเมินผลการจัดงานในเบื้องต้นวันที่ 1 มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมจัดแสดงผลงานจำนวน 222 หน่วยงาน มีบูธแสดงผลิตภัณฑ์จำนวน 298 บูธ มีนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากประเทศญี่ปุ่น เยอรมัน ออสเตรเลีย มาชมงานและยังมีการเจรจาตกลงซื้อขายจำนวน 52 รายการ เกิดการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าในงานนวัตกรรมกว่า 200 ล้านบาท ทั้งนี้หากประเมินผลการจัดงานครบทั้ง 3 วัน คาดว่าจะมีการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจและซื้อขายกันมากกว่านี้ ซึ่งจากการพูดคุยกับผู้แสดงผลงานนวัตกรรมพบว่ามียอดการซื้อเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญหลังจากมีสื่อมวลชนช่วยเผยแพร่ผลงานนวัตกรรมการแพทย์ในหลายๆ รายการออกไปสู่สาธารณะ ก็ช่วยเพิ่มยอดการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น เช่น รถพยาบาลนาโน รถพยาบาลนาโนอัจฉริยะ และ ยูนิตทำฟันหรือเก้าอี้ทำฟันฝีมือคนไทย เป็นต้น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า จากการจัดงานตลอดระยะเวลาทั้ง 3 วัน ที่ผ่านมาทุกท่านคงเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีผลงานในส่วนที่เป็น “ผลิตภัณฑ์ต้นน้ำ” หรืองานวิจัยที่อยู่ในช่วงการคิดค้น “ผลิตภัณฑ์กลางน้ำ” หรืองานที่อยู่ระหว่างการสร้างต้นแบบ และทดลองใช้ และ “ผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ” ที่มีการผลิตในเชิงพาณิชย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่มาร่วมในงานที่พร้อมให้หน่วยงานต่าง ๆ เกิดการบูรณาการและส่งเสริมให้มีการขยายผลในเชิงพาณิชย์ ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาระบบและคุณภาพการบริการ ให้ได้มาตรฐาน ประชาชนเข้าถึงได้ตามความจำเป็นด้านสุขภาพในแต่ละระดับ ขยายความครอบคลุมการบริการอย่างเท่าเทียมกัน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณด้านสุขภาพของประเทศ ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพของภูมิภาคอาเซียนได้ในอนาคต

ศ.นพ.รัชตะ กล่าวต่อว่า เห็นได้ชัดเจนว่าทั้งหน่วยงานราชการที่มาจากสมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์ไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)  สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม พร้อมให้ความร่วมมือสนับสนุนภาคเอกชน และนักลงทุนเพื่อให้การจัดงานในครั้งนี้ได้รับการสานต่ออย่างต่อเนื่อง ยั่งยืน และมั่นคงต่อไป

“การจัดงานครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จัดขึ้น คาดว่าอาจมีการจัดงานในลักษณะนี้อีกเพื่อให้มีการต่อยอดนวัตกรรมและการวิจัยในงานต่าง ๆ ต่อไป ผมขอถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อคณะผู้ดำเนินงาน และผู้มาจัดแสดงในงาน ขอบคุณวิทยากรที่กรุณาสละเวลาให้เกียรติมามอบความรู้ ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ช่วยให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีบัดนี้” ศ.นพ.รัชตะ กล่าว