ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมว.สธ.หนุนกรมการแพทย์ร่วมทุนเอกชนสร้าง “ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง” รวมศูนย์บริการที่เป็นเลิศของ 14 หน่วยงานในสังกัด 15 สาขาไว้ด้วยกัน ส่วนกรมอนามัยขอให้เป็นศูนย์กลางเครือข่ายความร่วมมือการสร้างสุขอนามัยในประเทศ โดยเฉพาะเด็ก ให้มีศูนย์กลางการประสานงานการพัฒนาเด็กของประเทศ 

วันนี้ (28 สิงหาคม 2558) ศ.คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ตรวจเยี่ยมกรมการแพทย์ และกรมอนามัย รับฟังผลการดำเนินงาน และมอบนโยบายการทำงานแก่ผู้บริหารจากส่วนกลาง และภูมิภาค

นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ที่กรมการแพทย์ พบว่ามีผลงานโดดเด่นที่ภาคภูมิใจ คือโครงการร่วมทุนภาครัฐ-เอกชนตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งได้นำร่องศูนย์ความเป็นเลิศด้านการรักษาโรคตาของโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) สาขาสุขุมวิท ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ผ่านการประเมินมาตรฐาน เจซีไอซึ่งเป็นมาตรฐานสากล ด้วยคะแนน 99.1 เปอร์เซ็นต์ สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ประชาชนพึงพอใจร้อยละ 98 และมีแผนจะทำโครงการศูนย์การแพทย์เฉพาะทางขนาด 200 เตียง มีคลินิกผู้ป่วยนอก 15 สาขา นำบริการที่เป็นเลิศของหน่วยงานในสังกัดทั้ง 14 แห่งมารวมไว้ด้วยกัน ใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยจะเชิญชวนภาคเอกชนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มประกันและด้านสุขภาพร่วมลงทุน ดำเนินการตามระเบียบราชการอย่างโปร่งใส เลี้ยงตัวเองได้

ส่วนที่ กรมอนามัย พบว่าผลการดำเนินที่ผ่านมาน่าชื่นชม ได้รับความสำเร็จเกิดประโยชน์กับส่วนรวม เช่น โครงการถนนอาหารปลอดภัย บูรณาการการทำงานกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สิ่งที่อยากจะให้กรมอนามัยเร่งดำเนินการคือ การเป็นศูนย์กลางเครือข่ายความร่วมมือสร้างสุขอนามัยในประเทศ บูรณาการความร่วมมือหน่วยงานทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุข โดยมีแผนจัดตั้งศูนย์กลางการประสานงานการพัฒนาเด็กของประเทศ มีศูนย์ต้นแบบที่กรมอนามัย และขยายผลเป็นศูนย์กลางการประสานงานของประเทศต่อไป เพื่อสร้างสุขอนามัยที่ดีของเด็กทั่วประเทศ นอกจากนี้ได้แนะให้เร่งสร้างงานวิจัยสามารถเป็นข้อปฏิบัติของประเทศ ด้านสุขอนามัยที่ดีขึ้น และปฏิบัติได้จริง

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องพัฒนาในภาครวมทั้งกระทรวงสาธารณสุข คือ เรื่องข้อมูลด้านสุขภาพ ที่มีความถูกต้อง ชัดเจน ทันสมัย และประเมินผลได้