ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กาชาดฯ ยัน ร่างกายมนุษย์กำจัดเชื้อเอชไอวีเองไม่ได้ หลังเกิดเหตุหมอแก้ตัวกับคนไข้ "ผลตรวจเลือดผิดพลาดเพราะร่างกายล้างเชื้อได้เอง" ระบุ โอกาสตรวจเลือดมีพลาดได้แต่น้อยมาก แค่หนึ่งในแสน แจง ผู้ติดเชื้อเอชไอวีหากไม่ได้รับยาต้านไวรัส จะเริ่มออกอาการในระยะ 5-6 ปี ทั้งมีผื่น ตุ่มขึ้นทั่วตัว งูสวัด ฯลฯ แต่มีผู้ป่วยร้อยละ 5 ที่ไม่มีอาการใดเลย แต่จำนวนเท่ากันก็แสดงอาการอย่างรวดเร็ว

นสพ.เดลินิวส์ : กรณีผู้ป่วยเข้าร้องเรียนต่อเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ว่าถูกโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในภาคใต้วินิจฉัยผลการตรวจเลือดของตนเองผิดพลาด โดยระบุว่ามีเชื้อเอชไอวีทำให้ทนทุกข์ทรมานทั้งกายใจนานกว่า 4 ปี เมื่อตรวจซ้ำอีกครั้งกลับไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด พอทวงถามไปยังแพทย์ผู้ตรวจ ก็ได้รับคำตอบว่า "ร่างกายผู้ป่วยล้างเชื้อเอชไอวีได้เอง" ซึ่งไม่เป็นความจริง

พญ.นิตยา ภานุภาคพึ่งพาพงศ์ หัวหน้าหน่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวถึงการตรวจหาเชื้อเอชไอวี ว่า มีอยู่ 2 วิธี คือ 1.การตรวจหาภูมิต้านทานเชื้อเอชไอวี ซึ่งจะมีหลายรุ่น แต่จะใช้เวลาหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 2-3 สัปดาห์ และ 2.การตรวจหาเชื้อเอชไอวีโดยตรงด้วยวิธีแนท (Nucleic Acid Amplification Testing: NAT) จะตรวจได้เร็วหลังรับเชื้อประมาณ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งจะได้ผลแม่นยำทั้ง 2 แบบ ทั้งนี้ การตรวจหาเชื้อเอชไอวีนั้น หากครั้งแรกให้ผลเลือดเป็นบวก จะต้องตรวจซ้ำอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง ด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน จึงจะยืนยันผลได้ว่าผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการผิดพลาดนั้นเป็นไปได้ เช่น การตรวจเลือด 3 ครั้งให้ผลยืนยันเป็นบวกทั้งหมด แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปกลับไม่พบว่าป่วยจริง เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้แต่โอกาสน้อย แค่หนึ่งในแสนคนเท่านั้น

"ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นได้นานๆ ครั้ง ปัญหาส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากชุดตรวจ แต่เป็นเรื่องของตัวคนเป็นหลัก เช่นเลือดของผู้ป่วยสลับกัน การอ่านค่าผิดหรือตรวจเพียง 1-2 ครั้ง พอให้ผลเลือดเป็นบวกก็แจ้งคนไข้เลย ไม่ได้ตรวจซ้ำก่อน สำหรับผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีจริงๆ หากไม่ได้รับยาต้านไวรัสเลย บางรายจะเริ่มมีอาการป่วยในระยะ 5-6 ปี โดยเฉลี่ยอาการที่พบคือมีผื่น มีตุ่มขึ้นตามตัว เชื้อราในช่องปาก และงูสวัด อย่างไรก็ตามมีผู้ป่วยร้อยละ 5 ไม่แสดงอาการใดๆ เลย ขณะเดียวกันก็มีผู้ป่วยร้อยละ 5-10 แสดงอาการแบบเต็มรูปแบบอย่างรวดเร็ว" พญ.นิตยา กล่าว

ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ร่างกายของผู้ป่วยจะกำจัดเชื้อเอชไอวีออกไปได้เอง พญ.นิตยา กล่าวว่า สมัยก่อนเราไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่ที่ผ่านมา มีการศึกษาวิจัยพบว่าในกรณีผู้ที่เพิ่งได้รับเชื้อเอชไอวีมาใหม่ๆ ยังไม่ถึงเดือน แล้วให้รับประทานยาต้านไวรัสติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือน พอมาตรวจเลือดซ้ำหลังจากนั้น พบเชื้อดังกล่าวลดลงมาก แทบไม่เจอแต่พอให้หยุดรับประทานยาต้านไวรัสแล้วมาตรวจซ้ำอีกครั้งก็พบว่าเชื้อยังอยู่ในร่างกายเหมือนเดิม ดังนั้นข้อมูล ณ วันนี้จึงยังไม่พบว่าร่างกายคนเราสามารถกำจัดเชื้อเอชไอวีออกไปได้เอง.

ที่มา : เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 12 ก.ย. 2558 (กรอบบ่าย)

เรื่องที่เกี่ยวข้อง