ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมว.สธ.มอบนโยบายให้ อภ.พัฒนาองค์กรทำงานแบบมืออาชีพ สามารถพึ่งพาตนเองและแข่งขันกับภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ และให้ทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตและตรึงราคายาของประเทศ ให้ประชาชนและหน่วยงานต่างๆ เข้าถึงยาได้ในราคาที่เหมาะสมด้วยมาตรฐานและคุณภาพ พร้อมขอให้เร่งรัดเดินหน้าโรงงานผลิตวัคซีน

วันน (24 กันยายน 2558) ที่โรงงานผลิตยาองค์การเภสัชกรรม (รังสิต) จ.ปทุมธานี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ตรวจเยี่ยมรับฟังการดำเนินงานขององค์การเภสัชกรรม มอบนโยบายการดำเนินงาน พร้อมเยี่ยมชมกระบวนการผลิตยาของโรงงานผลิตยาองค์การเภสัชกรรมแห่งใหม่ 

นพ.ปิยะสกล  กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรม เป็นหลักของประเทศในการผลิตยาและเวชภัณฑ์ สนับสนุนแก่ประชาชนและสังคมไทยที่จำเป็นต้องใช้เมื่อเกิดวิกฤตในประเทศ โดยเป็นหน่วยงานหลักที่ผลิตและจำหน่ายยาให้แก่หน่วยงานภาครัฐ จึงขอให้พัฒนาองค์กรให้มีความก้าวหน้า มีแผนการพัฒนาเป็นเลิศด้านการผลิตและนวัตกรรมที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ออกมา มีตัวชี้วัดด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผล ให้สามารถพึ่งพาตนเองและแข่งขันกับภาคเอกชน ทั้งในและนอกประเทศได้ ทั้งการผลิตยาและตรึงราคายาในประเทศไม่ให้สูงเกินไป ให้ประชาชนและหน่วยงานต่างๆ เข้าถึงยาในราคาที่เหมาะสม เมื่อจำเป็นต้องใช้ ด้วยมาตรฐานและคุณภาพ

สำหรับโรงงานผลิตวัคซีนนั้น จำเป็นต้องเดินหน้าไปให้ได้ ขอให้พยายามอย่างเต็มที่ เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นของประเทศ ส่วนปัญหาการสำรองยาและเวชภัณฑ์เมื่อเกิดภาวะวิกฤตนั้น ขอให้ดำเนินการต่อ เพราะเป็นภารกิจหลักขององค์การฯ ควรมีแผนการดำเนินงานร่วมกันกับกระทรวงสาธารณสุข หารือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีการหมุนเวียนใช้ยาและเวชภัณฑ์อย่างเหมาะสม

ทั้งนี้ องค์การเภสัชกรรม ทำหน้าที่ผลิตและจำหน่ายยา สำรองยาและเวชภัณฑ์ไว้ใช้ยามฉุกเฉินเพื่อความมั่นคงของชาติ เป็นยาที่ผลิตเองร้อยละ 60 ที่เหลือเป็นการจัดยาเพื่อจำหน่าย โดยในปีงบประมาณ 2558 ได้ดำเนินการผลิตและจัดหายา เพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของประเทศ สนองนโยบายรัฐบาล ทดแทนการนำเข้า หรือยาที่มีผู้ผลิตน้อยราย ช่วยให้ภาครัฐประหยัดงบประมาณในการจัดหา กว่า 4,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าจะเป็นผู้นำในธุรกิจยาและเวชภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์ จำเป็นต่อสังคมไทยและประชาคมอาเซียนอย่างยั่งยืน

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ ปี 2559-2563 มีดังนี้ 1.โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยารังสิต ขณะนี้อยู่ระหว่างเริ่มขบวนการผลิต เพื่อขอรับรองการผลิตยาตามมาตรฐาน GMP-PIC/S จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และขอรับการรับรองมาตรฐานองค์การอนามัยโลกต่อไป โดยมีกำลังการผลิต 2,500 ล้านเม็ด/ปี 2.โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนกที่ จ.สระบุรี 3.การจัดหาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รองรับธุรกิจขององค์กรตามมาตรฐานการผลิต 4.แผนการย้ายฐานการผลิตโรงงานเฟสที่ 2 เพื่อทดแทนและเพิ่มกำลังการผลิตในสายการผลิตยาน้ำ ยาครีม ยาฉีด และยาผง 5.การก่อสร้างคลังและศูนย์กระจายสินค้า และ 6.แผนการพัฒนาที่ดินเป็นนิคมอุตสาหกรรมยา ที่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี