ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข จดสิทธิบัตรโปรแกรมไทยรีเฟอร์ เทคโนโลยีใช้ส่งต่อผู้ป่วยในระบบปกติและฉุกเฉิน เร่งขยายผลใช้ในโรงพยาบาลทุกระดับทั่วประเทศ ขณะนี้ครอบคลุมแล้ว 52 จังหวัด ผลการใช้ที่เขตสุขภาพที่ 6 ได้ผลดี แพทย์โรงพยาบาลปลายทางสามารถวางแผนการรักษาผู้ป่วยล่วงหน้า เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาสูงขึ้น  

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2558 ที่ โรงพยาบาลชลบุรี จ.ชลบุรี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะที่ปรึกษาฯ ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานพัฒนาระบบบริการสุขภาพของเขตที่ 6 ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว โดยมีผู้บริหารเครือข่ายสุขภาพเข้าร่วมประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ภาพรวมการจัดบริการประชาชนของพื้นที่เขตสุขภาพที่ 6 มีหลายเรื่องที่ประสบผลสำเร็จ โดยเฉพาะการบูรณาการส่งต่อผู้ป่วยในระบบปกติและฉุกเฉิน โดยใช้โปรแกรมไทยรีเฟอร์ (Thai Refer) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่โรงพยาบาลลำปางพัฒนาและจดสิทธิบัตรแล้ว ใช้แล้ว 52 จังหวัด โดยเขตสุขภาพที่ 6 ได้นำมาใช้ในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง ได้ผลดี สามารถเชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วยทางอินเตอร์เน็ตจากโรงพยาบาลต้นทางไปยังสถานบริการปลายทาง แพทย์สามารถบริหารจัดการเตรียมความพร้อมรับและดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว โดยจะขยายเครือข่ายถึงระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่งทั้งเขตสุขภาพภายในปี 2559 และได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พัฒนาโปรแกรมให้ทันสมัย สามารถใช้ได้ในสถานบริการทุกระดับทั่วประเทศ จะทำให้ข้อมูลการส่งต่อผู้ป่วยได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพ ดูแลรักษาดีขึ้น และนำข้อมูลมาวิเคราะห์หาสาเหตุและปัญหาเพื่อพัฒนาระบบบริการให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น   

สำหรับปัญหาความแออัดผู้ป่วย รมว.สาธารณสุขได้มีนโยบายให้เพิ่มความเข้มแข็งของระบบบริการปฐมภูมิ เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ ตามนโยบายสร้างนำซ่อม รวมทั้งรองรับบริการสังคมผู้สูงอายุในอนาคตข้างหน้าด้วย นอกจากนี้ได้ให้เขตสุขภาพบริหารงบประมาณ โดยบูรณาการโครงการต่างๆ มีเป้าหมายชัดเจน และให้ประเมินความก้าวหน้าการดำเนินงานทุก 3 เดือน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ทั้งนี้ได้ให้เขตสุขภาพ ร่วมทำงานกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพในเขตและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาวิชาการและจัดบริการประชาชนร่วมกัน โดยผ่านกลไกการทำงานในรูปของคณะกรรมการบริหาร เขตสุขภาพ ซึ่งการบริหารในลักษณะนี้ จะเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซ้ำซ้อนในการทำงานได้ 

นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เขตสุขภาพที่ 6 เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมและรัฐบาลมีเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจเพิ่มอีก 2 จังหวัดคือ สระแก้ว และตราด จึงต้องวางแผนเพื่อให้บริการทั้งโรคจากการประกอบอาชีพและการป้องกันมลพิษในระยะยาว ไม่ให้มีปัญหาในอนาคต โดยมอบให้สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนร่วมกับผู้บริหารเขตสุขภาพที่ 6