ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผู้สูงวัยเสี่ยงโรคเรื้อรังอย่างน้อย 1 โรค ระบุปี 2563 จะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15.3 กรมการแพทย์จับมือศิริราชพยาบาลอบรมบุคลากรทางการแพทย์จัดการปัญหาสุขภาพผู้สูงวัย แนะผู้สูงอายุเลือกบริโรคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หมั่นฝึกจิต สมาธิเพื่อให้เกิดความมั่นคงทางอารมณ์ หางานอดิเรกหรือกิจกรรมที่สมกับวัย เพื่อสร้างคุณค่าในตนเอง ปรับสภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัยให้ปลอดภัย หลีกเลี่ยงความเครียด ควันบุหรี่ ควันไฟ สารเคมี สุรา และสิ่งเสพติดต่างๆ

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2558 ที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กรุงเทพมหานคร นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดอบรมระยะสั้นเรื่อง “การจัดการกับปัญหาทางคลินิกที่พบบ่อยในผู้ป่วยสูงอายุ” ว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรโลกทำให้สัดส่วนของประชากรกลุ่มผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น องค์การสหประชาชาติได้คาดการณ์ไว้ว่าสัดส่วนของผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จะเพิ่มจากร้อยละ 5.9 ในปี พ.ศ. 2523  เป็นร้อยละ 9.9 ในปี พ.ศ. 2568  ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ, สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบจำนวนประชากรผู้สูงอายุประเทศไทยปี พ.ศ. 2533 มีร้อยละ 7.4 ปี พ.ศ. 2543 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 9.5 และคาดว่า พ.ศ. 2563 จะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15.3 

และข้อมูลจากสถาบันประชากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล คาดการณ์อายุเฉลี่ยของประชากร พ.ศ.2557 ในเพศชายมีอายุเฉลี่ย 71.3 ปี และเพศหญิงมีอายุเฉลี่ย 78.2 ปี แสดงให้เห็นว่าจำนวนประชากรผู้สูงอายุจะเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ในอนาคตอันใกล้ โดยสาเหตุที่ผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเป็นผลจากความก้าวหน้าทางการแพทย์และสาธารณสุข 

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ ปี 2555 พบโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ  5 อันดับแรกในเพศชาย ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจขาดเลือด โรคเบาหวาน และโรคมะเร็งตับ สำหรับโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุเพศหญิง ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ต้อกระจก และโรคสมองเสื่อม ตามลำดับ จะเห็นได้ว่าผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ สูง และไม่ได้เจ็บป่วยด้วยโรคใดเพียงโรคเดียว ส่วนใหญ่มักมีโรคประจำตัวอย่างน้อย 1 โรค โดยเฉพาะผู้สูงอายุยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไรยิ่งมีปัญหาสุขภาพมากขึ้นตามอายุด้วย และผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ การดูแลผู้ป่วยสูงอายุจะมีความพิเศษกว่าการดูแลผู้ป่วยวัยอื่นเพราะเป็นวัยที่รวมความเสื่อม รวมโรค รวมความเสี่ยงต่อการเกิดโรค

ดังนั้น กรมการแพทย์ โดยสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบงานวิชาการด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ รวมถึงการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้านผู้สูงอายุ จึงได้ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล จัดอบรม “การจัดการปัญหาทางคลินิกที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ” โดยมุ่งหวังให้แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ได้รับการพัฒนาทักษะในการดูแลรักษาผู้สูงอายุ เพื่อให้นำความรู้ไปใช้ในการดูแลรักษาผู้สูงอายุ พร้อมทั้งสามารถประเมินปัญหา เพื่อวางแผนให้การรักษาพยาบาล และหาแนวทางช่วยเหลือผู้สูงอายุได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งการอบรมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุจากนานาชาติ อาทิ ประเทศญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาชนจีน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐเกาหลี มาเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์

อธิบดีกรมการแพทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า การดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุให้มีสุขภาพดี ประกอบด้วย การรับประทานอาหาร เลือกบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ได้แก่ พืช ผัก ผลไม้ สมุนไพร ธัญพืชไม่ขัดสี การออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ให้เหมาะสมตามสภาวะร่างกาย และความถนัดของแต่ละบุคคล การฝึกจิตสมาธิ หมั่นฝึกจิต สมาธิเพื่อให้เกิดความมั่นคงทางอารมณ์ การสันทนาการ หางานอดิเรกหรือกิจกรรมที่สมกับวัย พบปะพูดคุยกับผู้อื่น เพื่อสร้างคุณค่าในตนเอง การปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวก ควรอยู่ที่สภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัยในปลอดภัย หลีกเลี่ยงความเครียด ควันบุหรี่ ควันไฟ สารเคมี สุราและสิ่งเสพติดต่างๆ