ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เด็กหญิงนันท์นภัส ทับทิมศรี น้องพั้นซ์ เด็กน้อยอายุ 11 ปี ผู้ป่วยโรคมะเร็งกระดูกขาซ้าย ที่ได้รับผ่าตัดแบบใหม่ โดยไม่ต้องตัดขาซ้ายทิ้ง โดยได้รับความช่วยเหลือจาก มูลนิธิรามาธิบดีฯ ในการช่วยเหลือผู้ป่วยให้เข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสูงสุดระดับประเทศ

ผศ.นพ.อดิศักดิ์ นารถธนะรุ่ง

ผศ.นพ.อดิศักดิ์ นารถธนะรุ่ง หัวหน้าหน่วยเนื้องอกกระดูก ภาควิชาออร์โธปิดิกส์คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า 3 เดือนก่อนมาโรงพยาบาล ผู้ป่วยได้รับอุบัติเหตุจักรยานล้มทับเข่าซ้าย จากนั้นสังเกตเห็นว่าเข่าซ้ายบวมมากขึ้น และปวดมากโดยเฉพาะเวลากลางคืนจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง แต่อาการโดยรวมยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ผลเอ็กซเรย์พบความผิดปกติที่กระดูก แพทย์สงสัยว่าจะเป็นมะเร็งกระดูกซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตและโรงพยาบาลรัฐแห่งนั้นไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งกระดูก ผู้ป่วยจึงถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อตรวจอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง

ภายหลังจากที่แพทย์ได้ตรวจดูอาการของโรคอย่างละเอียดแล้ว จึงทำให้ทราบว่าผู้ป่วยกำลังป่วยเป็น “โรคมะเร็งกระดูกขาซ้าย” ทีมแพทย์ได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่าผู้ป่วยรายนี้สามารถผ่าตัดเก็บขาได้ ซึ่งการรักษาโรคมะเร็งชนิดนี้ จะต้องผ่าตัดเอาส่วนที่เซลล์มะเร็งลุกลามออกไปทั้งหมด เพื่อรักษาชีวิตของผู้ป่วยเอาไว้ โรงพยาบาลรามาธิบดีสามารถรักษาโรคนี้ได้โดยการใช้เทคโนโลยีการผ่าตัดแบบใหม่ทำให้ไม่ต้องตัดขาด้านซ้ายทิ้ง โดยทีมแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเอากระดูกเดิมที่เป็นมะเร็งกระดูกที่บริเวณขาซ้ายออกทั้งหมด และทดแทนด้วยข้อเทียมชนิดพิเศษ (endoprosthesis) โดยใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดทั้งสิ้น 14 ชั่วโมงและยังคงมีการให้ยาเคมีบำบัดอย่างต่อเนื่องหลังผ่าตัด

เด็กหญิงนันท์นภัส ทับทิมศรี

เด็กหญิงนันท์นภัส ทับทิมศรี (น้องพั้นซ์) อายุ 11 ปีผู้ป่วยโรคมะเร็งกระดูกขาซ้าย ที่ได้รับผ่าตัดแบบใหม่โดยไม่ต้องตัดขาซ้ายทิ้ง ซึ่งใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 14 ชั่วโมงกล่าวว่า “ขอบคุณทีมอาจารย์ทุกท่าน โดยเฉพาะคุณหมออดิศักดิ์ นารถธนะรุ่งด้วย ที่อาจารย์หมอใช้การรักษาด้วยวิธีและเทคโนโลยีใหม่ครั้งนี้ แทนการตัดขาซ้ายหนูทิ้ง และต้องขอบคุณมูลนิธิรามาธิบดีฯ และงานสังคมสงเคราะห์โรงพยาบาลรามาธิบดี ค่าข้อเทียมชนิดพิเศษ ที่มีราคาสูงเกือบ 4 แสนบาท รวมไปถึงทีมแพทย์ที่เข้ามาดูแลรักษาสุขอนามัยที่อยู่อาศัยและช่วยสนับสนุนในการซ่อมแซมบ้าน เพื่อให้หนูและครอบครัวมีสุขภาพกาย สุขภาพใจ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อยากขอบคุณทุกท่านที่ทำให้หนูและครอบครัวมีความสุข ถือเป็นการสร้างโอกาสในชีวิตครั้งใหม่ให้กับหนูอีกด้วย”

ผู้สนใจร่วมบริจาคสามารถโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ชื่อบัญชี“มูลนิธิรามาธิบดี”(โครงการเพื่อผู้ป่วยยากไร้)ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขารามาธิบดี เลขที่ 026-4-26671-5 และธนาคารกรุงเทพ สาขารามาธิบดี (อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์) เลขที่ 090-7-00123-4 หรือติดต่อมูลนิธิรามาธิบดีฯ 270 ถนนพระราม 6 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร.0-2201-1111หรือเว็บไซต์www.ramafoundation.or.thติดตามข่าวสารและช่องทางการทำบุญได้ที่ IG@ramafoundation, FBมูลนิธิรามาธิบดีฯ และTwitter @ramafoundation1

เรื่องที่เกี่ยวข้อง