ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองศิลา ร่วมกับ มข.จัดงานวาระอีสานต้านภัยมะเร็งท่อน้ำดี กับมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดีสัญจร ครั้งที่ 34 เน้น 5 มาตรการเชิงรุกในชุมชน

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2558  ที่เทศบาลเมืองศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น  มีการจัดงาน มหกรรม“วาระอีสานต้านภัยมะเร็งท่อน้ำดี กับมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดีสัญจร ครั้งที่ 34” ตามยุทธศาสตร์ “กำจัดพยาธิใบไม้ตับ ลดมะเร็งท่อน้ำดี วาระแห่งชาติ” โดยมี นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วยนายศิวโรจน์ มุ่งหมายผล รองผู้ว่าราชการ จ.ขอนแก่น นายยอดยิ่ง จันทนพิมพ์ นายกเทศมนตรีเมืองศิลา .ศุภชัย ปทุมนากุล รองอธิการบดี ม.ขอนแก่น  รศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์ ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น ผศ.พญ.เนตรเฉลียว สัณฑ์พิทักษ์ ประธานมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี รศ.นพ.ณรงค์ ขันตีแก้ว หัวหน้าโครงการแก้ไขปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (CASCAP) ม.ขอนแก่น และ นพ.พิเชฏฐ ลีละพันธ์เมธา ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 7 ขอนแก่น ร่วมในพิธีเปิดงาน

นพ.อำนวย กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาโรคมะเร็งท่อน้ำดี เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของไทย เพราะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตทั่วประเทศปีละกว่า 20,000 คน ซึ่งเกินครึ่งเป็นประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพบว่ามีประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 6 ล้านคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งท่อน้ำดี ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ระดมความร่วมมือและการมีส่วนร่วมที่สำคัญจากทุกภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน โดยกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ “ทศวรรษการกำจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี”

สำหรับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ในการกำจัดพยาธิใบไม้ตับและลดมะเร็งท่อน้ำดี ดังนี้ 1.การป้องกันโรคและคัดกรอง เน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ การจัดการสิ่งแวดล้อม โดยความร่วมมือของชุมชน ประชาชนได้รับการคัดกรองพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีที่ทั่วถึงและครอบคลุม 2.การพัฒนา การวินิจฉัย ดูแลรักษา ส่งต่อ ต้องพัฒนาคุณภาพการวินิจฉัยให้ถูกต้อง แม่นยำ ผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีต้องได้รับการดูแลรักษาในระยะเริ่มแรก ระบบการส่งต่อผู้ป่วยมีประสิทธิภาพ รวดเร็วทันเวลา และต้องส่งเสริมสนับสนุนให้มีการฝึกอบรมแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการรักษาและคัดกรองพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี 3.พัฒนาคุณภาพชิวิต ต้องพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีทั้งในระดับสถานบริการ ครอบครัวชุมชน ผสมผสานด้วยการแพทย์แผนไทย และ 4.การวิจัยและการจัดการข้อมูล ต้องมีการศึกษาวิจัยด้านการแพทย์ใหม่ๆ มีการจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ และใช้ฐานข้อมูลเป็นมาตรฐานเดียวกัน

ส่วนมาตรการเชิงรุกของกระทรวงสาธารณสุขในระดับชุมชนเพื่อสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันควบคุมโรค ประกอบด้วย 5 มาตรการสำคัญ ดังนี้ 1.การคัดกรองสุขภาพ โดยตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ตับจากอุจจาระ ให้การรักษาถ้าตรวจพบพยาธิใบไม้ตับ และตรวจคัดกรองตรวจอัลตราซาวด์ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปที่โรงพยาบาลชุมชน เมื่อพบว่าป่วยต้องส่งต่อเข้ารับการรักษาผ่าตัด 2.ให้ความรู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพประชาชนในชุมชนและนักเรียนในโรงเรียน ทั้งในและนอกระบบให้มีพฤติกรรมไม่กินปลาน้ำจืดเกล็ดขาวดิบ ถ่ายลงส้วม  3.จัดการสิ่งแวดล้อม สิ่งปฏิกูล โดยชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมให้คน สัตว์ สัตว์รังโรคปลอดพยาธิ  4.มีข้อมูลระบาดวิทยาและระบบฐานข้อมูลพยาธิไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีครบวงจรและครอบคลุมถึงระดับชุมชน  และ5.การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีโดยทีมหมอครอบครัว ได้รับยาที่ดีมีการผสมผสานการดูแลทั้งการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์แผนไทย           

นพ.อำนวย กล่าวอีกว่า ในวันนี้ กระทรวงสาธารณสุขและโครงการแก้ไขปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (CASCAP) ม.ขอนแก่น และเทศบาลเมืองศิลา ร่วมกับภาคประชาชน โดย“มูลนิธิมะเร็งท่อน้าดี” ร่วมกันเป็นภาคีเครือข่าย เพื่อสื่อสารให้ทุกภาคส่วนมีความตระหนักถึงความรุนแรงและร่วมกันหาทางแก้ปัญหาของโรคมะเร็งท่อน้ำดีที่ยังคุกคามสุขภาพของคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงได้จัดมหกรรม “วาระอีสานต้านภัยมะเร็งท่อน้ำดี กับมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดีสัญจร ครั้งที่ 34” ขึ้น เพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังและเพื่อให้เกิดความยั่งยืน