ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ อบรม อสม. 300,000 คน เป็นนักจัดการสุขภาพคนพิการทุกชุมชนทั่วไทยอย่างมืออาชีพ ค้นหาและส่งต่อหน่วยงานขึ้นทะเบียนเพื่อให้ได้รับสิทธิการช่วยเหลือดูแลตามกฎหมายครบถ้วน 100 เปอร์เซ็นต์ ผลสำรวจล่าสุดไทยมีคนพิการ 1 ล้าน 5 แสนคน กว่า 3 แสนคนใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างยากลำบาก และอีกเกือบ 1 หมื่นคน ไม่มีคนดูแล

นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 3 ธันวาคมทุกปี องค์การสหประชาชาติประกาศให้เป็นวันคนพิการสากล เพื่อรณรงค์ส่งเสริมสร้างความเข้าใจของสังคม ร่วมมือกันให้การดูแลช่วยเหลือ สนับสนุนคนพิการให้มีศักดิ์ศรี โดยองค์การอนามัยโลกระบุว่าในปีที่ผ่านมาทั่วโลกมีคนพิการกว่า 1,000 ล้านคน ในส่วนของประเทศไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานผลสำรวจล่าสุดในปี 2555 มีคนพิการ 1 ล้าน 5 แสนคน ประมาณร้อยละ 80 อยู่ในพื้นที่ชนบท โดยคนพิการเกือบร้อยละ 50 มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และอยู่ในวัยแรงงานประมาณร้อยละ 19

ปัญหาสุขภาพและความยากลำบากของคนพิการ ที่พบมากอันดับหนึ่ง ได้แก่ การเดินขึ้นบันได ร้อยละ 49 รองลงมาคือการนั่งยองและการเดินบนทางราบในระยะ 50  ก้าว ร้อยละ 47 การมองเห็น ร้อยละ 28 และการลุกจากการนอนเป็นท่านั่งร้อยละ 25 นอกจากนี้ยังพบว่ามีประมาณ  3 แสนกว่าคน ที่ใช้ชีวิตทำกิจวัตรส่วนตัวอย่างยากลำบาก เช่นอาบน้ำ ขับถ่าย ล้างหน้า แปรงฟัน โดยมีคนพิการเกือบ 10,000 คน ที่ไม่มีคนดูแล จำเป็นต้องเร่งให้ให้ความช่วยเหลือตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการพ.ศ. 2534  ทั้งด้านสุขภาพ การศึกษา และอาชีพ  

นพ.บุญเรือง กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ 2559 นี้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ มีนโยบายเน้นการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อดูแลคนพิการในชุมชนทั้งเขตเมืองและชนบทให้ครบทุกคน โดยได้จัดหลักสูตรอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรืออสม.ทั้งในกทม.และต่างจังหวัดจำนวน 300,000 คน จากที่มีทั้งหมด 1 ล้าน 4 หมื่นกว่าคน ให้มีความรู้และความเข้าใจเรื่องคนพิการทั้งปัญหาสุขภาพกายและจิต มีศักยภาพเป็นนักจัดการสุขภาพชุมชน  ดูแลและพิทักษ์สิทธิด้านระบบบริการสุขภาพของคนพิการในทุกชุมชน หมู่บ้านที่อยู่ในความดูแลอย่างมืออาชีพ โดยทำหน้าที่เอ็กซเรย์ค้นหาคนพิการในชุมชน และส่งต่อให้หน่วยงานในพื้นที่ เพื่อขึ้นทะเบียนและได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งด้านการศึกษา แรงงานและสุขภาพ สร้างบทบาทคนพิการให้เป็นพลังของชุมชนในการดูแลสุขภาพ รวมทั้งให้ อสม.ร่วมกับทีมหมอครอบครัว ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 60,000 กว่าทีมทั่วประเทศ ให้การดูแลสุขภาพประชาชนในชุมชนหมู่บ้านด้วย 

ขณะเดียวกันจะให้ อสม.รณรงค์ในการป้องกันความพิการในอนาคต ซึ่งจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากการเป็นสังคมผู้สูงวัยจากอุบัติเหตุจราจร และโรคเรื้อรัง เช่นโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น มั่นใจว่าหากการทำงานของหน่วยงานอย่างเข้มข้นและเชื่อมโยงกันเช่นนี้ จะทำให้คนพิการไทยทุกคนได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างครบถ้วน เป็นพลังพัฒนาประเทศและมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น