ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข ห่วงโรคปอดบวมในกลุ่มเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ พบป่วยรวมกันกว่า 1.2 แสนคน เกือบ 2 ใน 3  ของผู้ป่วยทั้งหมด เสียชีวิต 300 กว่าราย คาดผู้ป่วยเพิ่มในช่วงฤดูหนาวสะสมทะลุ  2 แสนราย แนะประชาชนให้ดูแลสุขภาพ หากป่วยเป็นไข้หวัด กลุ่มเสี่ยงเช่น เด็กอายุต่ำกว่า 5ขวบ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และผู้สูงอายุ ให้พบแพทย์เพื่อรักษาทันที กลุ่มทั่วไปหากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ไข้สูงขึ้น ไอ เจ็บหน้าอก หายใจหอบเร็ว ให้รีบพบแพทย์รักษาเช่นกัน ช่วยลดการเสียชีวิตได้

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคปอดบวมประมาณปีละ 2 แสนคน ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ 1มกราคม 2558 ถึง 30 พฤศจิกายน 2558 ทั่วประเทศ พบผู้ป่วยโรคปอดบวม 192,189 คน  เสียชีวิต 406 ราย ในปี 2557 ตลอดปีพบผู้ป่วย 200,710 คน เสียชีวิต 893 ราย ในช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวในบางพื้นที่ เช่นภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวเย็นมีลมแรง ประชาชนป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจมากขึ้นและโรคปอดบวมจะเป็นภาวะแทรกซ้อนตามมา คาดว่าตลอดฤดูหนาวจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ยอดผู้ป่วยทั้งประเทศจะสูงขึ้นกว่า 2 แสนคน 

โดยผู้ป่วยและเสียชีวิตพบได้ทุกวัย  มากสุดในกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุ พบป่วยรวมกัน 122,279 คน หรือเกือบ  2 ใน 3 ของผู้ป่วยทั้งหมด เสียชีวิต 301 ราย โดยกลุ่มเด็กเล็กตั้งแต่แรกเกิด-3 ปี พบป่วย 61,786 คน เสียชีวิต 11 ราย กลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไป พบป่วย 60,493 คน เสียชีวิต  301 ราย 

กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ เร่งรณรงค์ให้ประชาชนดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หากป่วยด้วยโรคไข้หวัดให้รีบรักษาและระวังโรคแทรกซ้อนปอดบวมซึ่งเป็นโรคติดเชื้อระบบหายใจชนิดรุนแรง อัตราการเสียชีวิตสูง เกิดได้ทั้งเชื้อแบคทีเรียและไวรัส อาการของโรคคือ มีไข้ ไอจาม มีน้ำมูก เจ็บคอจากนั้นจะเริ่มหายใจเร็วและลำบาก เหนื่อยหอบ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีการหนาวสั่น ซึม อาเจียน เชื้อโรคจะอยู่ในเสมหะน้ำมูกน้ำลายของผู้ป่วยและติดต่อกันทางไอจาม

นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กลุ่มที่มีความเสี่ยงป่วยโรคปอดบวม ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ เด็กน้ำหนักตัวน้อย เด็กขาดสารอาหาร ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี โรคหัวใจ โรคถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง และผู้สูงอายุ ขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากมีภูมิต้านทานต่ำอาการรุนแรงกว่ากลุ่มอื่น หากป่วยเป็นไข้หวัดขอให้พบแพทย์ทันที ส่วนผู้ป่วยกลุ่มทั่วไปขอให้นอนพักผ่อนให้มาก รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย สวมหน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนอื่น หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน มีไข้สูง หายใจเหนื่อยหอบ ให้รีบพาไปพบแพทย์เพื่อรักษาทันที จะช่วยลดการเสียชีวิตได้

ขอให้ประชาชนทั่วไปและผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ยึดหลักกินอาหารปรุงสุกร้อน ใช้ช้อนกลาง และหมั่นล้างมือ ฟอกสบู่บ่อยๆ ก่อนรับประทานอาหารและภายหลังหยิบจับสิ่งของ หรือจับราวบันได ปุ่มลิฟต์ ลูกบิดประตู ภายหลังจากการใช้ห้องน้ำห้องส้วม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ครั้งละ 30 นาที ช่วงอากาศหนาวเย็นขอให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลาน-ผู้สูงอายุ ให้สวมเสื้อผ้าหนาๆ ให้ความอบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอ ประชาชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422