ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นสพ.มติชน : แล้ว "โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค" หรือที่รับรู้กันผ่าน "บัตรทอง" ก็ถูกแปรให้กลายเป็น "สายล่อฟ้า" ทางการเมืองขึ้นอย่างน่าใจหายใจคว่ำ

ใจหายใจคว่ำว่า "อนาคต" จะเป็นอย่างไร

แม้จะมีความพยายามออกมายืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยมี "ความคิด" ที่จะยกเลิก "โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค"

มีแต่จะทำให้  "ดี" ยิ่งขึ้น คำว่า "ดียิ่งขึ้น" นี้แหละที่กำลังกลายเป็นปัญหา เพราะว่ารัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ หลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ก็คิดอย่างนี้

กระทั่ง ศักดิ์แห่ง "บัตรทอง" ก็ต้อง "เป๋" ไป

คำว่า "ดียิ่งขึ้น" นี่แหละพรรคประชาธิปัตย์ก็เคยนำมาเป็นประเด็นในการหาเสียงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548 ไม่ว่าเมื่อเดือนธันวาคม 2550 ไม่ว่าเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554

กระทั่งคำว่า "30 บาท" หายไปจาก "สารบบ"

คำว่า "ดียิ่งขึ้น" จึงกำลังกลายเป็น "ประเด็น" โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคำแถลง อันมาจากปากของ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงสาธารณสุข ตกลงว่าจะ "ดียิ่งขึ้น" อย่างไร

ท่าทีอันมาจากรัฐบาล ภายหลังคำปราศรัยยาวเหยียดของ นพ. ปิยะสกล สกลสัตยาทร สะท้อนให้เห็นความกังวลอย่างเด่นชัด

เป็นความกังวลบนหนทาง 2 แพร่ง

แพร่งที่ 1 คือการเดินหน้า "โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค" อย่างที่พรรคไทยรักไทยต่อยอดมาจากแนวความคิดสุดยอดของ "หมอหงวน"

แพร่งที่ 2 คือ ปรับปรุง ตกแต่งเสียใหม่ จะเป็นการปรับปรุงและตกแต่งเหมือนที่มีการเสนอในยุครัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ หรืออย่างไร จะเป็นการปรับปรุงและตกแต่งเหมือนที่ "พรรคประชาธิปัตย์" เพียรพยายาม

ต้องยอมรับว่า "โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค" ส่งผลสะเทือนต่อกระบวนท่าภายในพรรคประชาธิปัตย์อย่างรุนแรง จากที่เคยเคลื่อนไหวโต้แย้งกระทั่งเสนอสโลแกนว่า "30 บาท ตายทุกโรค" ในการหาเสียงเมื่อเดือนมกราคม 2544 กลายเป็น "ไม่ต้องจ่าย"

ถือได้ว่าเป็นสโลแกนอย่างชนิด "สวนกลับทิศ" อย่างรุนแรง กระทั่งผลอันตามมาก็คือ เดือนมกราคม 2544 แพ้พรรคไทยรักไทย เดือนกุมภาพันธ์ 2544 แพ้พรรคไทยรักไทย เดือนธันวาคม 2550 แพ้พรรคพลังประชาชน เดือนกรกฎาคม 2554 แพ้พรรคเพื่อไทย

บนหนทาง 2 แพร่งนี้จึงจะดำเนินไปอย่างไร

มีความเด่นชัดอย่างยิ่งว่า มีนโยบายอย่างน้อย 2 นโยบายที่พรรคเพื่อไทยประกาศจะสืบต่อและพัฒนาด้วยความแน่วแน่และมั่นคง

1 คือ นโยบายรับจำนำข้าว แม้ว่าจะมีการรุกไล่และคิดบัญชีต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างต่อเนื่อง รุนแรง แต่พรรคเพื่อไทยก็ไม่เคยหวั่นไหว

ประกาศว่าได้เป็น "รัฐบาล" เมื่อใดพร้อม "เดินหน้า" ต่อ

ขณะเดียวกัน 1 คือ นโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรค หรือที่แสดงออกผ่าน "บัตรทอง" จากพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน กระทั่งพรรคเพื่อไทย

เพราะว่าจากปี 2544 ถึงปี 2558 เป็นเวลา 15 ปี ปรากฏผลอย่างเป็นรูปธรรม

นั่นก็คือ ประชาชนและชาวบ้านอย่างที่เรียกกันว่า "รากหญ้า" ให้ความเชื่อมั่น ส่งผลให้คะแนนนิยมของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย โดดเด่น

ใครแตะ "30 บาท" ก็มักมีอันเป็นไป

ดังนั้น ใครก็ตามที่คิดจะทำลายหรือกวาดล้างพรรคเพื่อไทย อันเป็นอวตารแห่งพรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักไทย ก็ต้องพุ่งเป้าไปยัง 2 นโยบายนี้อย่างจริงจัง เพราะเท่ากับเป็นเสมือน "กล่องดวงใจ"ในทางการเมือง

บังเอิญเป็น "กล่อง" ที่ฝากไว้กับ "ศรัทธา" ของประชาชน

จากเดือนธันวาคม 2558 กระทั่งเหยียบบาทก้าวเข้าไปยังปี 2559 จึงทวีความร้อนแรง แหลมคมอย่างยิ่ง

การเมืองยังเป็นเรื่องของการขยายผลจากรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 และรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ไม่แปรเปลี่ยน

เป้าหมายก็คือ เพื่อมิให้กลายเป็น "รัฐประหาร" อัน "เสียของ"

ที่มา : นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 29 ธ.ค. 2558