ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อธิบดีกรมการแพทย์ เผยโรคกรดไหลย้อนภัยใกล้ตัวที่พบมากขึ้นในกลุ่มคนมีพฤติกรรมการบริโภคไม่เหมาะสม ชี้หากปล่อยทิ้งไว้นานเรื้อรัง อาจนำไปสู่มะเร็งหลอดอาหารส่วนปลายได้ แนะลดชา กาแฟ ของมัน และรับประทานอาหารให้ตรงเวลาครบทุกมื้อ

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคกรดไหลย้อนเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติที่เกี่ยวกับการมีกรดในกระเพาะอาหารไหลขึ้นมาสู่หลอดอาหาร มีอาการคล้ายโรคกระเพาะ แต่โรคกรดไหลย้อนมีสาเหตุมาจากการทำหน้าที่ของกล้ามเนื้อหูรูดส่วนล่างของหลอดอาหารหย่อนตัวลง ทำให้มีน้ำย่อยหรือกรดสามารถไหลย้อนขึ้นไปที่หลอดอาหารได้ ซึ่งโดยปกติเมื่อกลืนอาหารลงไปแล้ว หูรูดจะทำหน้าที่คลายตัวเพื่อเปิดทางให้อาหารไหลผ่านลงไปในกระเพาะอาหาร เมื่อผ่านลงสู่กระเพาะอาหารแล้ว หูรูดจะหดรัดเพื่อปิดกั้นไม่ให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปที่หลอดอาหาร คล้ายประตูกันไม่ให้อาหารกรดหรือด่างไหลย้อนเข้าไปในหลอดอาหาร

สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคกรดไหลย้อนคือ มีพฤติกรรมการบริโภคไม่เหมาะสมเช่น ตื่นเช้าเร่งรีบไปทำงาน รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา กินแต่ชากาแฟ น้ำอัดลม ช็อกโกแลต สูบบุหรี่ รับประทานอาหารมื้อเย็นแล้วนอนทันที ไม่ได้รอระยะเวลาให้อาหารเคลื่อนที่ผ่านกระเพาะอาหาร ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาน 3 ชั่วโมง ทำให้เกิดเป็นโรคกรดไหลย้อนได้

ส่วนอาการที่บ่งชี้ว่าเป็นโรคกรดไหลย้อน ที่เป็นสัญญาณอันตราย ได้แก่ มีอาการกลืนลำบาก กลืนเจ็บคอ อาเจียนบ่อยๆ น้ำหนักลด และอาเจียนเป็นเลือดหรือมีอาการซีด ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพราะหากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานาน จะกลายเป็นเรื้อรังและมีภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ทำให้หลอดอาหารส่วนปลายมีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดเป็นมะเร็งในหลอดอาหารส่วนปลายได้ในอนาคต

สำหรับการรักษาสามารถตรวจวินิจฉัยโรคได้ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ให้ความแม่นยำด้วยเครื่องตรวจกรดไหลย้อน  แล้วค่อยดำเนินการผ่าตัดถ้ามีข้อบงชี้ว่ามีกรดหรือด่างไหลย้อนขึ้นมาเกินระดับจริง ซึ่งปัจจุบันการผ่าตัดไม่ยุ่งยากเนื่องจากสมัยนี้มีเครื่องมือที่ทันสมัยด้วยการส่องกล้องเข้าไปเพื่อกระชับหูรูดให้แข็งแรง สะดวกปลอดภัย 1-2 วันก็สามารถกลับบ้านได้

อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวต่อว่า ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตในแต่ละวันให้เหมาะสม โดยการดูแลเรื่องการบริโภคการรับประทานอาหารให้เป็นเวลาครบทุกมื้อ มื้อละไม่ต้องมาก แค่พออิ่มเพื่อให้มีอาหารในกระเพาะอย่างสม่ำเสมอร่างกายจะย่อยอาหารได้หมด และก่อนนอน 2-3 ชั่วโมงควรงดอาหารรวมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นช่องทางของการเกิดโรคกรดไหลย้อน เช่น ลดชากาแฟและของมัน น้ำอัดลม และงดสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกายเสียสุขภาพและก่อให้เกิดโรคมะเร็ง

ทั้งนี้การดูแลรักษาสุขภาพของตนเองถือเป็นเรื่องที่ดี ถ้าดูแลให้มากยิ่งขึ้นหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สุขภาพร่างกายจะแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันสูงสามารถต้านทานต่อโรคได้