ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สำนักการแพทย์ กทม. เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรบริหารการพยาบาล (ด้านการแพทย์) รุ่นที่ 11 (บพ.11) เพื่อเสริมสร้างทักษะหลากหลายให้บุคลากรสายงานด้านสุขภาพโดยเฉพาะพยาบาลมีความสำคัญต่อระบบบริการสุขภาพ สำหรับผู้บริหารการพยาบาลหรือผู้ที่เตรียมตัวจะก้าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหาร จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านองค์ความรู้ ทักษะ บุคลิกภาพและความเป็นผู้นำ

นางผุสดี ตามไท

เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 15.00 น. ณ สำนักการแพทย์ กทม. นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรบริหารการพยาบาล (ด้านการแพทย์) รุ่นที่ 11 (บพ.11) จัดโดย กองวิชาการ สำนักการแพทย์ ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 กุมภาพันธ์ – 27 พฤษภาคม 2559 รวมระยะเวลา 59 วัน ประกอบด้วยการฝึกอบรมแบบไป – กลับ ตามส่วนราชการในสังกัดสำนักการแพทย์ และกิจกรรมเสริมสร้างทักษะหลากหลาย ศึกษาดูงานภาครัฐและเอกชน

นางผุสดี กล่าวว่า บุคลากรสายงานด้านสุขภาพโดยเฉพาะพยาบาลมีความสำคัญต่อระบบบริการสุขภาพ สำหรับผู้บริหารการพยาบาลหรือผู้ที่เตรียมตัวจะก้าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหาร จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านองค์ความรู้ ทักษะ บุคลิกภาพและความเป็นผู้นำ กระบวนการพัฒนาบุคลากรด้วยการฝึกอบรมเป็นกระบวนการหนึ่ง ซึ่งทุกหน่วยงานจำเป็นต้องนำมาใช้ แต่สิ่งที่เห็นผลทันทีเมื่อเข้ารับการฝึกอบรมคือการมีเครือข่าย เพราะการฝึกอบรมในโครงการนี้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมาจากทุกโรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ และจากมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช อีกทั้งเป็นการสร้างคุณลักษณะในด้านของคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์และการมีวินัย โดยเฉพาะการขึ้นสู่การเป็นผู้บริหาร นับเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งนัก

นพ.สุรินทร์ กู้เจริญประสิทธิ์ รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กล่าวว่า การอบรม บพ.11 เป็นหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาด้านการบริหารสำหรับบุคลากรสายการพยาบาล ให้มีความรู้ความเข้าใจในงานด้านการบริหารแนวใหม่ที่สอดคล้องกับสภาพความ เปลี่ยนแปลงของสังคมในปัจจุบัน ทำให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนักบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสามารถตัดสินใจโดยใช้ความรู้เชิงประจักษ์อย่างมีภาวะผู้นำโดยอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณอันดีของวิชาชีพการพยาบาล ซึ่งประกอบด้วย ข้าราชการสายงานการพยาบาล ระดับหัวหน้าหอผู้ป่วย หัวหน้าหน่วยพิเศษ หัวหน้าห้องตรวจ หรือผู้ที่จะดำรงตำแหน่งผู้บริหารสายการพยาบาล สังกัดสำนักการแพทย์ จำนวน 26 คน และจากคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช จำนวน 4 คน รวมทั้งสิ้น 30 คน