ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นสพ.กรุงเทพธุรกิจ : สมาคมผู้ประกอบการอุปกรณ์ทางการแพทย์และยาเมียนมา ระบุธุรกิจ "เฮลธ์แคร์-อุปกรณ์การแพทย์" โตก้าวกระโดด ดึงต่างชาติ-นักลงทุนไทยเปิดตลาด

นายวิน เกียว กรรมการบริหาร สมาคมผู้ประกอบการอุปกรณ์ทางการแพทย์และยาแห่งสหภาพเมียนมา เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมสุขภาพของพม่าระหว่างปี 2553-2559 เติบโตก้าวกระโดดถึง 3 เท่า คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 70,000 ล้านบาท คาดว่าช่วง 5 ปีจากนี้ ตลาดมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 20% จากการขยายตัวในเชิงเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม ความต้องการรักษาและดูแลสุขภาพของประชาชน โดยแต่ละปีมีการขยายตัวของโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มขึ้น 10%

หากนับรวมตลาดยาที่ใช้ในการรักษาสุขภาพ จะมีมูลค่ามากถึง 1.4 แสนล้านบาท เป็นตลาดขนาดใหญ่และเป็นโอกาสสำคัญที่นักธุรกิจต่างๆ จะเข้าลงทุนในเมียนมาที่มีความต้องการโรงพยาบาลทันสมัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการรักษาสุขภาพ

ทั้งนี้ รัฐบาลเมียนมาวางแผนเพิ่มงบประมาณสนับสนุนด้านสุขภาพประชาชน มากขึ้นปีละ 6% ต่อเนื่องจนถึงปี 2563 ปัจจุบัน เมียนมามีโรงพยาบาล 1,192 แห่งทั่วประเทศ เป็นโรงพยาบาลรัฐ 86% เอกชน 14% ขณะที่ โรงพยาบาล คลินิก และอนามัยท้องถิ่น มีการขยายตัวต่อเนื่องรองรับความต้องการของประชากรเมียนมาที่เริ่มให้ความสำคัญต่อการตรวจสุขภาพมากขึ้น แต่พบว่ามีการขาดแคลนผลิตภัณฑ์ทั้งยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ห้องปฏิบัติการ

"การเมืองในเมียนมามีความชัดเจนมากขึ้น นักลงทุนต่างชาติคาดหวังและมองในทิศทางเดียวกันว่าภาพรวมการพัฒนาในเมียนมาจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากนี้"

โดยความต้องการด้านอุปกรณ์การแพทย์และยาในเมียนมาเป็นโอกาสสำคัญของนักลงทุนไทยที่สนใจจะเข้าไปดำเนินการ อย่างไรก็ตาม รูปแบบการลงทุน 100% สำหรับผู้ประกอบการต่างชาติค่อนข้างจำกัด เพราะยังไม่มีกฎเกณฑ์ส่งเสริมการลงทุนด้านนี้ ดังนั้นช่องทางการลงทุนหลัก คือ การร่วมลงทุนกับนักลงทุนท้องถิ่น

อย่างไรก็ดีกรณีนักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนที่เมียนมาช่วงนี้จะได้รับสิทธิพิเศษส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการพิจารณาการลงทุนจากต่างชาติ อาทิ ยกเว้นภาษี 3 -5 ปี ทั้งภาษีที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งโรงงาน การผลิตสินค้า รวมถึงได้รับสิทธิในการเช่าที่ดินในระยะยาว

แม้ว่าจะเริ่มมีนักลงทุนไทยไปลงทุนหรือจัดตั้งโรงงานในพม่าเพิ่มขึ้น แต่พบว่าการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และยายังมีจำนวนน้อยมาก ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีผู้เล่นน้อยราย ยังมีโอกาสเข้าไปทำตลาดก่อนคู่แข่ง โดยขณะนี้เริ่มมีกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าวแล้ว ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากจีน สิงคโปร์ อินเดีย และเวียดนาม

เบื้องต้น สมาคมฯ ร่วมกับ บริษัท มินห์ วี แอดเวอร์ไทซิ่ง เซอร์วิส และ เอ็กซิบิชั่น จำกัด สมาคมทันตแพทย์กัมพูชา จัดงาน PHARMED EXPO 2016 หรือ งานแสดงสินค้าและนิทรรศการด้านอุตสาหกรรมยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ระดับนานาชาติ ที่เมียนมา ระหว่างวันที่ 12-14 ก.ค.นี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรรศการเมียนมา ย่างกุ้ง กัมพูชา วันที่ 4-5 ก.ย. ที่ศูนย์แสดงสินค้า และนิทรรศการไดมอนด์ ไอซ์แลนด์ พนมเปญ ส่วน บังคลาเทศ วันที่ 18-19 ต.ค. โรงแรมแพนแปซิฟิกโซนากาอน กรุงดากา 

นับเป็นช่องทางเปิดตลาดของนักลงทุนไทยในประเทศเหล่านี้ โดยมีผู้ประกอบการทั่วโลก มาจัดแสดง 80 องค์กร จาก 15 ประเทศ อาทิ จีน เยอรมัน ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย อินเดีย ปากีสถาน เบรารุส เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม และบังคลาเทศ คาดมี ผู้เข้าชมงานกว่า 2,000 ราย

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 4 มีนาคม 2559