ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

คณะกรรมการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพแห่งชาติ เร่งวางแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี พัฒนาแพทย์แผนไทย แพทย์พื้นบ้าน และแพทย์ทางเลือก นำร่องพัฒนาภูมิปัญญาระดับท้องถิ่น 2 จังหวัด เชียงราย อุดรธานี เป็นพื้นที่ตัวอย่าง พร้อมคัดเลือก ‘หมอไทยดีเด่นแห่งชาติ’ หวังสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประสบความสำเร็จ

ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพแห่งชาติ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานกรรมการ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกภาคส่วนได้เห็นความสำคัญของการขับเคลื่อนภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ ซึ่งครอบคลุม การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือก โดยกำหนดไว้ใน ธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2552 นำไปสู่แผนยุทธศาสตร์ชาติการพัฒนาภูมิปัญญาไท สุขภาพวิถีไท ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2555-2559) ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีไป เมื่อ 20 พฤษภาคม 2555 ส่งผลให้ทิศทางการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพเดินไปได้อย่างมีเป้าหมาย

นพ.วิชัย กล่าวต่อไปว่า ล่าสุด คณะกรรมการพัฒนาภูมิปัญญาฯ เห็นควรให้ยุทธศาสตร์ได้ขับเคลื่อนไปอย่างต่อเนื่อง จึงมีมติเห็นชอบจัดตั้ง อนุกรรมการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ การพัฒนาภูมิปัญญาไท สุขภาพวิถีไท ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2560-2564 โดยมี นพ.เปรม ชินวันทนานนท์ เป็นประธาน พร้อมด้วยหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เป็นต้น

โดยการยกร่างแผนฯ จะต้องระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนครอบคลุม 5 ด้าน ได้แก่ ด้านงานวิจัย ด้านระบบบริการ ด้านคุ้มครองภูมิปัญญา ด้านระบบยาและสมุนไพร และด้านกำลังคน

“คณะกรรมการพัฒนาภูมิปัญญาฯ จะเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ การพัฒนาภูมิปัญญาไทและสุขภาพวิถีไท ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน เกิดผลเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านวิชาการและการปฏิบัติในพื้นที่ โดยจะต้องประเมินผลงานอย่างต่อเนื่องในปีนี้ และมีการเชื่อมภาคีเครือข่ายเพื่อให้การพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพเกิดผลสำเร็จ”

นอกจากนั้น ที่ประชุมยังเห็นชอบให้มีการคัดเลือก “หมอไทยดีเด่นแห่งชาติ” เพื่อเป็นตัวอย่างของความสำเร็จในการใช้ภูมิปัญญาไทยดูแลรักษาสุขภาพ พร้อมจัดตั้งคณะอนุกรรมการสนับสนุนการนำร่องพัฒนาภูมิปัญญาระดับท้องถิ่น ใน 2 จังหวัด ได้แก่ เชียงรายและอุดรธานี เป็นพื้นที่ตัวอย่างการพัฒนาที่เชื่อมโยงภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพ สานพลังให้เกิดกลไกการทำงานร่วมกัน

นพ.เปรม ชินวันทนานนท์ ประธานอนุกรรมการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ การพัฒนาภูมิปัญญาไท สุขภาพวิถีไท ฉบับที่ 3 กล่าวว่า การดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ฉบับที่ 2 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง ทำให้ไม่บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ที่ว่าระบบสุขภาพของประเทศต้องมีความมั่นคง สามารถพึ่งตนเองด้วยภูมิปัญญาไทย สุขภาพวิถีไท และประชาชนมีสิทธิในการเลือกใช้และเข้าถึงการแพทย์ระบบต่างๆ อย่างเท่าเทียมและรู้เท่าทัน ดังนั้น ในแผนยุทธศาสตร์ชาติฉบับที่ 3 จะต้องดำเนินการต่อไป โดยมีการกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน และสามารถขับเคลื่อนได้อย่างเป็นรูปธรรม

นพ.วิวัฒน์ ศรีวิชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยสกลนคร กล่าวว่า โรงพยาบาลแพทย์แผนไทยสกลนคร ได้นำแผนยุทธศาสตร์ชาติไปขับเคลื่อน สอดคล้องกับธรรมนูญสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2552 และมติจากสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ที่เห็นควรจัดตั้งโรงพยาบาลต้นแบบภาคละ 1 แห่ง เพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้าน โดยได้รับความร่วมมือจากชุมชนท้องถิ่น มีผู้ใช้บริการ 25,000 คน ภายในเวลา 3 ปี