ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เตรียมทบทวนกฎ ระเบียบ กระบวนการรักษาทางการแพทย์รวมทั้งการบริหารจัดการเมื่อเกิดเหตุไม่พึงประสงค์จากการรักษาพยาบาลขึ้น สร้างความมั่นใจแก่ประชาชนว่าจะได้รับบริการทางการแพทย์ตามมาตรฐานแห่งวิชาชีพ ยึดเป้าหมายเดียวกับผู้ป่วยและญาติที่ต้องการหายจากโรคภัยไข้เจ็บ ด้วยการประกอบวิชาชีพที่ดีมีมาตรฐานบนหลักวิชาการที่ทันสมัย และบนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจกันทั้งสองฝ่าย

นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคดีบริการทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลเลย ที่มีการเผยแพร่ในสื่อมวลชนในขณะนี้ ว่า กรณีนี้เกิดเหตุที่โรงพยาบาลเลย เมื่อปี 2547 ผู้เสียหายมารับบริการด้วยอาการปวดศีรษะและเป็นไข้ กุมารแพทย์ 2 คน ได้ทำการรักษาพยาบาลตามขั้นตอนและวิธีการทางการแพทย์ แต่เกิดเหตุอันไม่พึงประสงค์ทำให้ผู้เสียหายต้องพิการ เป็นเหตุให้บิดามารดาของผู้เสียหายไม่พึงพอใจร้องเรียนขอความเป็นธรรม

ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเห็นว่า แพทย์ได้ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องตามมาตรฐานวิชาชีพแล้ว แต่ผู้เสียหายต้องการให้โรงพยาบาลช่วยเหลือเยียวยา เบื้องต้นได้มีการดำเนินการ ดังนี้

1.เจรจาไกล่เกลี่ย โดยการช่วยเหลือเยียวยาในด้านการรักษา วางแผนการดูแลผู้เสียหายต่อเนื่องหลังจากกลับจากการรักษาพยาบาล ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น 

2.การช่วยเหลือด้านการเงิน ซึ่งมีข้อจำกัดที่ระเบียบราชการ ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือเงินในจำนวนที่ต้องการได้ จึงมีการฟ้องสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เรียกให้ชดใช้เงินจำนวน 16,888,878.90 บาท และมีการไกล่เกลี่ยโดยศาลหลายครั้งแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ โดยศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง วินิจฉัยว่า แพทย์ตรวจวินิจฉัยโรคให้การรักษาโดยไม่ชักช้าและเอาใจใส่ผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดอย่างเช่นผู้มีวิชาชีพแพทย์พึงกระทำ และศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ต่อมาศาลฎีกา มีคำพิพากษาให้ชดใช้เงินแก่โจทย์ 2,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี  ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเคารพในคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ภาค 1 และศาลฎีกา โดยขณะนี้กำลังดำเนินการจัดหาเงินงบประมาณมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้แก่ผู้เสียหาย คาดว่าจะวางเงินต่อศาลในต้นเดือนพฤษภาคม 2559 นี้ 

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข จะได้ดำเนินการทบทวนกระบวนการรักษาทางการแพทย์และการบริหารจัดการเมื่อเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ขึ้น เพื่อทำให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยเกิดความปลอดภัยของผู้ป่วย (Patients safety) และเกิดความมั่นใจในการให้บริการทางการแพทย์ตามมาตรฐานแห่งวิชาชีพ โดยจะร่วมมือกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงสาธารณสุข แพทยสภา ราชวิทยาลัยต่างๆ ในแพทยสภา บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  

ในขณะเดียวกันเมื่อเกิดเหตุไม่พึงประสงค์จากการรักษาพยาบาลขึ้น กระทรวงสาธารณสุขในฐานะเป็นหน่วยราชการที่จะต้องปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะสืบหาข้อเท็จจริงว่าในกรณีนี้มีผู้เกี่ยวข้องที่จะต้องรับผิดชอบทางแพ่งตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 หรือไม่ ประกอบกับกระทรวงสาธารณสุขในฐานะที่เป็นหน่วยงานต้นสังกัดของแพทย์ทั้ง 2 ท่านและเจ้าหน้าที่อื่นๆ ของโรงพยาบาลเลย จังหวัดเลย จะดำเนินการให้เกิดความยุติธรรม โปร่งใส มีธรรมมาภิบาลตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีและถูกต้องตามหลักแห่งวิชาชีพเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานในกระทรวงสาธารณสุขต่อไปโดยเร็วและไม่เกิดผลกระทบต่อระบบบริการสาธารณสุขในภาพรวมระดับประเทศ      

นอกจากนี้ ในอนาคตจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษา วิเคราะห์ กฎ ระเบียบ กฎหมายต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้รับบริการและผู้ให้บริการ เพื่อที่จะปรับปรุง แก้ไข พัฒนากฎหมายให้สามารถเกิดประโยชน์ต่อผู้รับบริการและเกิดความมั่นใจแก่บุคคลากรสาธารณสุขในการให้บริการตามมาตรฐานแห่งวิชาชีพและได้รับความคุ้มครองจากกระทรวงสาธารณสุขเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ โดยยึดมั่นในเป้าหมายเดียวกับผู้ป่วยและญาติที่ต้องการหายจากโรคภัยไข้เจ็บ ด้วยการประกอบวิชาชีพที่ดีมีมาตรฐานบนหลักวิชาการที่ทันสมัย และบนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจกันทั้งสองฝ่าย