ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.รวมพลังเครือข่ายชวนคนไทยเลิกสูบบุหรี่ “3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน” ชูต้นแบบหมออนามัยหักดิบเลิกบุหรี่คนแรกในโครงการฯ พร้อมประกาศคำท้าชวนผู้สมัครใจเลิกบุหรี่ ลงนามรับคำท้าเลิกสูบติดต่อกัน 6 เดือนละตลอดชีวิต มุ่งขยายผลทุกภาค สร้างกระแสทุกวันสำคัญ หวังคนไทยสุขภาพดีเลิกสูบบุหรี่ 3 ปี 3 ล้านคน  

(วันนี้  6 กรกฎาคม 2559) ที่โรงแรมอมรินทร์ ลากูน จ.พิษณุโลก ในการประชุมเสริมสร้างความร่วมมือภาคีเครือข่ายสนับสนุนโครงการ “3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน” จัดโดย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย สมาคมหมออนามัย สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่าย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลราชสมบัติครบ 70 ปี และในวโรกาสที่พระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมายุ ครบ 90 พรรษา ในปี 2560 และ 91 พรรษา ในปี 2561 

โดยมี นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 2 กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุม เป้าหมายให้มีผู้เลิกสูบบุหรี่ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือตลอดชีวิต และให้ได้ 3 ล้านคน ในเวลา 3 ปี ตั้งเป้าปีแรกมีผู้เลิกสูบบุหรี่ 560,000 คนทั่วประเทศในเดือนพฤษภาคม 2560  

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า สถานการณ์การสูบบุหรี่ในประเทศไทยปี 2558 พบประชากรที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปเป็นผู้สูบบุหรี่ 11.7ล้านคน โดยผู้ชายสูบมากกว่าผู้หญิง 20 เท่า ผู้เสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ กลุ่มคนอายุ 30 ปีขึ้นไปจำนวน  50,710 คน ซึ่งโรคอันเป็นสาเหตุการตายหลักที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ได้แก่ โรคปอดอุดกลั้นเรื้อรัง ซึ่งเป็น รองลงมาคือ โรคมะเร็งปอด และโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งนี้การขับเคลื่อนการทำงานเพื่อให้ผู้สูบบุหรี่ลดลง จะอาศัยความเข้มแข็งของเครือข่ายหมออนามัยกว่า 4 หมื่นคนและ อสม.กว่า 1ล้านคนทั่วประเทศ ที่จะทำให้ประชาชนเห็นความสำคัญของพิษภัยจากการสูบบุหรี่ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ จัดกิจกรรมสร้างนำซ่อมในทุกระดับ ส่งเสริมให้มีการออกกำลังกายและเลิกบุหรี่ได้ในที่สุด  

นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการชี้แจงทำความเข้าใจกับเครือข่ายหมออนามัยและ อสม.ในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานเลิกบุหรี่ในพื้นที่  โดยในการประชุมได้มีการลั่นฆ้องประกาศท้าชวน เลิกบุหรี่ เพื่อในหลวง พร้อมลงนามคำท้าเป็นบุคคลต้นแบบ นำโดย นายมงคล เงินแจ้ง ผอ.รพ.สต.บ้านวังมะด่าน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก หมออนามัยหักดิบที่ประกาศเลิกบุหรี่คนแรกของโครงการ และได้มีการประกาศคำท้าชวนผู้สมัครใจเลิกบุหรี่แบบหักดิบ ซึ่งมีผู้รับคำท้าและร่วมลงนามรับคำท้า จำนวน 8 คน ได้แก่  

1.นายโกวิทย์ พยัคฆ์วิเชียร สาธารณสุขอำเภอตาคลี จ.นครสวรรค์ 

2.นายกนกพันธ์ ศรีภิรมย์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลวงฆ้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก  

3.นายชัยพร ทุ้ยดา 

4.นายมาก คงทรัพย์ 

5.นายสมคิด ศรีภิรมย์ บ้านวังมะด่าน ต.วงฆ้อง อ.พรหมพิราม พิษณุโลก  

6.นายสุภาพ รักชาติ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวังมะด่าน  

7.นายสุชาติ ดีมากมี สมาชิก อบต.วงฆ้อง  

8.ว่าที่ร้อยตรีศักดิ์ศิริ ดิษบรรจง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลวงฆ้อง อ.พรหมพิราม พิษณุโลก 

ทั้งนี้กิจกรรมท้าทายและเชิญชวนคนเลิกบุหรี่ จะขยายผลไปยังทุกภาค สอดแทรกในทุกกิจกรรม ทุกวันสำคัญต่างๆทั่วประเทศ สร้างกระแสรักสุขภาพ กระตุ้นให้มีคนเลิกสูบบุหรี่เพิ่มมากขึ้น และเพื่อให้คนไทยมีสุขภาพดีใน 3 ปี 3 ล้านคน ตามเป้าหมายที่วางไว้

นายมงคล เงินแจ้ง ผอ.รพ.สต.บ้านวังมะด่าน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก หมออนามัยผู้ที่ประกาศเลิกบุหรี่คนแรกในโครงการฯ กล่าวว่า ตนเองสูบบุหรี่มาตั้งแต่ปี 2523 รวมแล้วกว่า 36 ปี คิดจะเลิกบุหรี่หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ จนเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้ร่วมประชุมโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน ที่จะชักชวนคนเลิกสูบบุหรี่ ก็คิดว่าตนเองยังสูบอยู่แล้วจะไปชวนคนอื่นเลิกอย่างไร รู้สึกไม่สบายใจ จึงตัดสินใจประกาศเลิกบุหรี่เป็นคนแรกของโครงการในวันนั้นเลย ระหว่าง 2 สัปดาห์ที่เลิก มีอาการหงุดหงิด นอนไม่หลับ เมื่อก่อนจะสูบทุกครั้งหลังอาหารและก่อนนอนเพราะความเคยชิน คิดว่าหากตัดความเคยชินนี้ทิ้งไปไม่สูบก็จะทำให้เราเลิกได้ ท้ายสุดก็สามารถเลิกบุหรี่ได้ สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีได้ ซึ่งจะเป็นพลังในการชักชวนคนอื่นมาเลิก ถ้าเราเป็นคนแรกก็จะมีคนที่สอง คนที่สาม ตามาอย่างแน่นอน โดยตอนนี้ได้ประกาศท้าชวนไปยังผู้ที่สมัครใจเลิกบุรี่ในหลายกลุ่ม และได้รับการตอบรับคำท้ามาแล้วหลายคนและคาดว่าจะสามารถต่อยอดคำท้าไปยังคนอื่นๆ ได้ต่อไป

นายโกวิทย์ พยัคฆ์วิเชียร สาธารณสุขอำภอตาคลี นครสวรรค์ หนึ่งในผู้รับคำท้าสมัคใจเลิกบุหรี่ กล่าวว่า ต้องการที่จะเลิกบุหรี่อยู่แล้ว เลิกด้วยตนเองมาประมาณ 2  เดือน พอมีผู้มาชวนร่วมโครงการก็ยินดีอย่างมาก ที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการถวายความจงรักภักดีต่อในหลวงและยังเป็นการท้าทายต่อสู้กับจิตใจเอาชนะคำท้าของเพื่อนอีกด้วยว่าจะสามารถทำได้ตลอดไปหรือไม่ เป็นความท้าทายในการเป็นต้นแบบที่ดีด้านสุขภาพดีให้กับประชาชนและคนสาธารณสุขทั่วประเทศ เพราะการที่จะไปดูแลสุขภาพหรือแนะนำคนอื่น เราต้องดูแลสุภาพตนเองให้ดีเสียก่อน  

ขณะที่ นายกนกพันธ์ ศรีภิรมย์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลวงฆ้อง อ.พรหมพิราม พิษณุโลก กล่าวเช่นเดียวกันว่า ตนเองสูบบุหรี่มากว่า 25 ปี สูบวันละ 1 ซอง สูบมาเรื่อยยังไม่คิดที่จะเลิก ทั้งที่ร่างกายก็เหนื่อยง่าย เล่นกีฬาได้น้อยลง เวลาขึ้นบันได้ก็เหนื่อยเร็ว แต่ที่ได้ตัดสินใจประกาศเลิกสูบบุหรี่ครั้งนี้เป็นเพราะคำท้าของนายมงคล ที่ท้าชวนให้เลิกบุหรี่ ร่วมถวายความจงรักภักดีต่อในหลวง และเพื่อสุขภาพตนเอง และกว่า 1 เดือนแล้วที่เลิกสูบบุรี่แบบหักดิบ รู้สึกสบายใจที่สามารถเอาชนะใจตนเอง สามารถเป็นแบบอย่างให้กับคนอื่นได้ จึงขอเชิญชวนทุกคนตัดใจเลิกบุหรี่ ทุกคนทำได้ แค่เอาชนะใจตนเอง เพื่อครอบครัว เพื่อสุขภาพ และเพื่อในหลวง