ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.ส่งทีมสอบสวนโรค ควบคุมไข้หวัดใหญ่ เอช1 เอ็น 1 ใน เรือนจำนราธิวาส พบติดเชื้อ 379 คน ทุกคนได้รับยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เจ้าหน้าที่ในเรือนจำ 28 คน นักโทษกลุ่มเสี่ยง 72 คน ให้คำแนะนำการป้องกันตนเอง สนับสนุนเจลล้างมือ ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ หน้ากากอนามัย ถุงมือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ให้ห้องพยาบาลในเรือนจำ 

วันที่ 3 ส.ค.59 นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า สำนักระบาดวิทยารายงานผู้ต้องขังในเรือนจำนราธิวาส มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่จำนวนมากกว่า 500 คน พบผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.59 เป็นต้นมา และพบผู้ป่วยจำนวนมากในช่วงวันที่ 23 - 28 ก.ค.59 มากกว่า 40 คนต่อวัน  ได้มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา ส่งทีมสอบสวนโรคเข้าไปดำเนินการคัดกรองจำนวน 1,649 คน เป็นผู้ต้องขัง 1,611 คน และเจ้าหน้าที่ 38 คน

พบผู้ป่วยทั้งสิ้น 379 คน ผู้ป่วยเป็นผู้ต้องขัง 375 คน และเจ้าหน้าที่ 4 คน คิดเป็นอัตราป่วยร้อยละ 23 มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ในการสอบสวนโรค ได้เก็บตัวอย่างเชื้อจากคอผู้ป่วยจำนวน 7 คน ส่งตรวจศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12 สงขลา ผลยืนยันว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ เอช 1 เอ็น 1 และส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาล 9 คน เนื่องจากมีอาการหอบเหนื่อย ไข้สูง และมีโรคประจำตัวบางราย 

สิ่งที่ได้ดำเนินการมี ดังนี้  

1.คัดกรองผู้ป่วยเพิ่มเติม และให้การรักษาโดยแพทย์ จ่ายยายาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ 2 เม็ด 5 วัน จำนวน 310 ราย

2.ให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่แก่เจ้าหน้าที่ในเรือนจำ 28 คน นักโทษกลุ่มเสี่ยงได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ มีโรคประจำตัวหอบหืด และโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง จำนวน 72 คน

3.ให้สุขศึกษาเรื่องการป้องกันตนเองของโรคไข้หวัดใหญ่แก่นักโทษ และเจ้าหน้าที่  

4.สนับสนุนเจลล้างมือแบบกด 20 ขวด ชนิดพกพา 24 หลอด ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ 3,000 เม็ด หน้ากากอนามัย 4,000 ชิ้น ถุงมือ 6 กล่อง วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 30 โดส

ขณะนี้ พบผู้ป่วยรายใหม่มีจำนวนลดลง และเพิ่มมาตรการดำเนินการดังนี้

1.ให้พยาบาลประจำสถานพยาบาลเฝ้าระวังผู้ป่วยเพิ่มเติม ตามนิยามที่กำหนดและให้ยาแก่ผู้ป่วยที่มีอาการ พร้อมรายงานโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส หากพบผู้ป่วยมีอาการรุนแรงให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที  

2.เฝ้าระวังการระบาดไข้หวัดใหญ่ในจังหวัด โดยกำชับให้ทุกสถานบริการรายงานเข้าระบบเฝ้าระวัง เพื่อตรวจจับการระบาดขณะนี้ไม่พบผู้ป่วยในชุมชนโดยรอบเรือนจำ

3.ให้มีการทำความสะอาดพื้นที่ภายในบริเวณเรือนจำทุกวันจนโรคสงบด้วยน้ำยาซักฟอกหรือน้ำสบู่ และเน้นให้นักโทษป้องกันตนเองโดยเน้นการล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย ทั้งนี้ หลังจากนี้ 14 วัน ถ้าไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ถือว่าโรคสงบ

“ในฤดูฝนจะเป็นช่วงระบาดของไข้หวัดใหญ่ ขณะนี้มีรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศ 60,000 คน เสียชีวิต 6 ราย เตือนประชาชนหากป่วยมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ ให้นึกถึงโรคไข้หวัดใหญ่ ขอให้หยุดงานหรือหยุดเรียน สวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ หากไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ให้รีบพบแพทย์ ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคทางเดินหายใจอุดตัน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ให้พบแพทย์ทันที เนื่องจากโรคนี้มียารักษาสามารถลดอาการป่วยได้ และเน้นสุขอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” นพ.โสภณ กล่าว