ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ทราบเรื่องเครือข่ายข้าราชการพลเรือนและสหภาพพยาบาลฟ้องศาลปกครองปมเงินเดือนเหลื่อมล้ำแล้ว ชี้รัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาเงินเดือนข้าราชการทุกประเภทอย่างยั่งยืน ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ แจงเครือข่ายข้าราชการ-พยาบาลที่ยื่นฟ้องศาล ไม่เคยทอดทิ้ง พร้อมแก้ปัญหาที่เรื้อรังกว่า 10 ปี ยังไม่พิจารณาใช้ ม.44 พร้อมวอนทุกฝ่ายเข้าใจและดูความสามารถประเทศด้วย

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด

เมื่อวันที่ 6 ส.ค.59 พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่เครือข่ายข้าราชการพลเรือนไทยและสหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย ยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาค่าตอบแทนข้าราชการทุกประเภทให้มีความเท่าเทียมกัน เช่น ขอให้ยุติการใช้หลักเกณฑ์เพดานเงินเดือนของข้าราชการทุกประเภท และปรับโครงสร้างใหม่ทั้งระบบ ขอให้เพิกถอนระบบการจำแนกตำแหน่งจากซีเป็นแท่ง และขอให้เยียวยาความเสียหายจากการเสียโอกาสก้าวหน้าในอาชีพ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว โดยตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และได้ให้กรมบัญชีกลางไปพิจารณา เพราะเป็นปัญหาที่ค้างคามาเป็น 10 ปี ซึ่งการปรับโครงสร้างเงินเดือนข้าราชการใหม่ คือ การยกฐานเงินเดือนของข้าราชการที่อยู่ในระดับต่ำให้สูงขึ้น จึงต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่องบประมาณรายจ่ายของประเทศด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ทยอยปรับโครงสร้างเงินเดือน และเพิ่มอัตราค่าครองชีพให้แก่ข้าราชการพลเรือนมาโดยตลอด

“ล่าสุดสำนักงาน ก.พ. กำลังเร่งรัดจัดทำแนวทางแก้ไขปัญหา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของเงินเดือนข้าราชการพลเรือนกับข้าราชการประเภทอื่น เช่น ข้าราชการครู อัยการ ตุลาการ ท้องถิ่น เสนอคณะกรรมการ ก.พ.พิจารณาเร็วๆ นี้ ส่วนความก้าวหน้าในอาชีพ จะมีการทบทวนหลักเกณฑ์การปรับปรุงตำแหน่งเป็นระดับที่สูงขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ทั้งข้าราชการพลเรือนสายงานอื่นๆ ไม่เฉพาะแต่สายงานพยาบาลเท่านั้น”

ขณะเดียวรัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ เช่น เสี่ยงภัย ตรากตรำ ฯลฯ และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ของผู้ปฏิบัติงานในกระทรวงสาธารณสุข ให้มีความเหมาะสมมากขึ้นด้วย

“ท่านนายกใส่ใจต่อความเดือดร้อนนี้ และได้มอบหมายให้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปชี้แจงทำความเข้าใจถึงสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการกับกลุ่มเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง”

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า สำหรับการขอให้ใช้มาตรา 44 แก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนนั้น ตามหลักการแล้วหน่วยงานที่รับผิดชอบจะดำเนินการตามขั้นตอนโดยใช้กฎหมายปกติ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า จะเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนมากกว่าการใช้มาตรา 44 เพราะเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้นเฉพาะรัฐบาลนี้ แต่หากสุดวิสัย หรือมีข้อติดขัด ใช้เวลาดำเนินงานอีกยาวนาน นายกรัฐมนตรีก็พร้อมที่จะพิจารณาใช้กฎหมายพิเศษ

“ท่านนายกฯ เข้าใจถึงปัญหาความเดือดร้อนของข้าราชการทุกคน และไม่เคยทอดทิ้ง โดยเฉพาะข้าราชการชั้นผู้น้อย โดยพยายามวางระบบการดูแลข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งเรื่องค่าตอบแทนและสวัสดิการต่างๆ ให้สะท้อนความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม ขอให้พี่น้องข้าราชการเข้าใจและเห็นใจด้วยว่า รัฐบาลมีภาระที่จะต้องดูแลช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มทุกอาชีพ ซึ่งการแก้ไขปัญหาบางอย่างต้องใช้เวลาและดูความสามารถของประเทศด้วย"