ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“หมอปิยะสกล” ให้ อย.ทบทวนยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศพัฒนาไปสู่ประเทศไทย 4.0 ลดขั้นตอนขึ้นทะเบียนกับผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีความเสี่ยงต่ำ และผลิตภัณฑ์ที่ผู้ประกอบการได้คิดค้นนวัตกรรม แต่ยังคงเพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์สุขภาพที่จำหน่ายในท้องตลาด ทั้งมาตรการตรวจจับและดำเนินคดี ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจ

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบนโยบายเมื่อวันที่ 5 - 6 ส.ค. 59 ในการประชุม Retreat อย. ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหาร อย. ว่า ให้ อย.ทบทวนยุทธศาสตร์การดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ และให้มีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ไปสู่ประเทศไทย 4.0 โดยเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำ มุ่งเน้นภาคบริการให้แก่ผู้ประกอบการ ลดขั้นตอน Pre-Marketing ด้วยการปรับกฎระเบียบการกำกับดูแลตามความเสี่ยง หากผลิตภัณฑ์สุขภาพใดมีความเสี่ยงต่ำ ให้มีการขึ้นทะเบียนอย่างรวดเร็ว พร้อมกับจัดตั้งหน่วยให้คำปรึกษาผู้ประกอบการที่จะทำงานวิจัย พัฒนา และขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ ให้การขึ้นทะเบียนเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันในธุรกิจได้ทันต่อเวลา อันจะทำให้เกิดการเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจของประเทศ

ขณะเดียวกันให้จัดทำระบบเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์สุขภาพให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ด้วยมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ผลิต/นำเข้า/จำหน่าย รวมทั้งการโฆษณา หากมีการกระทำผิดกฎหมายก็ให้มีการดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ให้ประสานความร่วมมือกับเครือข่ายการคุ้มครองผู้บริโภค และให้ผู้บริโภคช่วยเป็นหูเป็นตาอีกทางหนึ่ง โดย
อย.ต้องตอบสนองการรับเรื่องร้องเรียน และให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้บริโภคได้ทันท่วงทีกรณีพบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ปลอดภัยในท้องตลาด ซึ่งทั้งหมดนี้จะขับเคลื่อนไปพร้อมกันอย่างเข้มข้น เพื่อเดินหน้าเศรษฐกิจประเทศไทย

รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า การทบทวนกลไกทำงานของ อย.ในอนาคตนี้ จะสำเร็จตามโมเดล “ประเทศไทย 4.0” ได้
จำเป็นจะต้องได้รับการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนตามแนวทางสานพลังประชารัฐของรัฐบาล ดังนั้น ในช่วงเดือนกันยายน 2559 นี้ อย.จะจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการร่างยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลง อย. 4.0 จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งผู้บริโภค และผู้รับบริการ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขหวังเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของ อย.ในการดำเนินงานที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทยสูงสุด มีส่วนร่วมนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ต่อไป