ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ เผยยังมีเด็กไร้สัญชาติใน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรีอีกเพียบ แจงการไร้สถานะทางทะเบียน ทำให้เด็กกลุ่มนี้เข้าไม่ถึงสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ เช่น สิทธิรักษาพยาบาล การเดินทางออกนอกพื้นที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก แม้เรียนจนจบปริญญาก็ไม่สามารถทำงาน ทำธุรกรรม และเลือกตั้งได้

นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้ลงพื้นที่เยี่ยมโรงเรียนตะโกปิดทอง และโรงเรียนบ้านถ้ำหิน ในพื้นที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี พบว่ายังมีเด็กจำนวนมากที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน และเข้าไม่ถึงสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า กลุ่มเด็กไร้สถานะ สามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่พ่อแม่มีสัญชาติไทย แต่ไม่ได้ไปแจ้งเกิด 2.กลุ่มผู้มีสิทธิได้รับสัญชาติไทยตามที่กฎหมายกำหนด แต่ไม่ได้ไปยื่นขอเรื่องดำเนินการ 3.กลุ่มที่ไม่มีเอกสารเลขประจำตัว 13 หลัก และไม่มีเอกสารอื่นใดยืนยันตัวเลย คาดว่ามีจำนวนประมาณ 40,000 ราย

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การไร้สถานะทางทะเบียน ทำให้เด็กกลุ่มนี้เข้าไม่ถึงสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ เช่น สิทธิในการรักษาพยาบาล การเดินทางออกนอกพื้นที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก การทำงาน เลือกตั้ง หรือทำธุรกรรมต่างๆ ก็ไม่สามารถทำได้ และแม้จะมีสิทธิเข้าเรียนจนจบปริญญา แต่ก็ไม่มีสิทธิกู้ยืมเงินกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา

"สาเหตุมีหลายปัจจัยประกอบกัน คืออาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ผู้ปกครองก็ไม่รู้สิทธิอะไรเลย ครูที่สอนก็ไม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการขอสัญชาติ และทางฝ่ายปกครองหรือทางอำเภอก็เข้าไม่ถึง ตั้งรับอยู่ที่อำเภออย่างเดียว" นายสุรพงษ์ กล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการซึ่งตั้งขึ้นโดยสภาการทนายความ ได้ลงพื้นที่ตั้งโต๊ะรับเรื่อง เพื่อเป็นตัวกลางในการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็มีเด็กไร้สัญชาติมายื่นเรื่องหลายร้อยคน หลังจากนี้ก็จะดำเนินการติดตามให้ผู้มีสิทธิตามกฎหมาย ได้รับสัญชาติไทย ขณะที่คนที่ไม่เข้าข่ายเลย อย่างน้อยก็มีเอกสารเลขประจำตัว 13 หลัก 

"เด็กไร้สัญชาติลักษณะนี้ยังกระจายอยู่ทั่วประเทศ และนอกจากตัวเด็กแล้ว ผู้ปกครองบางส่วนก็ยังมีปัญหาทางสถานะ ซึ่งเราก็จะขยายความช่วยเหลือไปยังกลุ่มผู้ปกครองด้วย" นายสุรพงษ์ กล่าว