ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

คณะกรรมการอำนวยการพัฒนาและส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้าน Medical and Wellness Tourism เตรียมจัดตั้งเมืองสุขภาพ (Wellness City) แบบครบวงจรที่จังหวัดปราจีนบุรีเป็นต้นแบบของประเทศ พร้อมขยายระยะเวลาพำนักในกลุ่มประเทศ CLMV และสาธารณรัฐประชาชนจีนอยู่ไทยได้นาน 90 วัน

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประชุมคณะกรรมการอำนวยการพัฒนาและส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านMedical and Wellness Tourism ครั้งที่ 1 ปีงบประมาณ 2560 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานรองรับยุทธศาสตร์การพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ

นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยได้ความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ในเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทั้งด้านการรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพด้วยการนวดแผนไทยและสปา ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และสมุนไพรไทย สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก ข้อมูลกรมการท่องเที่ยวล่าสุดเดือนสิงหาคม 2559 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาไทยประมาณ 2.8 ล้านคน ส่วนใหญ่เดินทางมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทั้งมารับการรักษาพยาบาล และเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ นำรายได้เข้าประเทศประมาณ 1,604 พันล้านบาท

การประชุมวันนี้ได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดสร้างเมืองสุขภาพแบบครบวงจร (Wellness City) มีมติให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แต่งตั้งคณะทำงานร่วมกันของกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อจัดทำรายละเอียดและแนวทางการดำเนินงานในการจัดสร้างWellness City แบบครบวงจร นำร่องที่จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมในด้านการแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทย เป็น 1 ใน 4 จังหวัดเป้าหมายในการจัดตั้งเมืองสมุนไพรของกระทรวงสาธารณสุข และเป้าหมายจัดตั้งเวชนคร (Medicopolis) เพื่อพัฒนาให้เป็นเมืองสุขภาพ ให้บริการทางการแพทย์แบบองค์รวมสำหรับผู้สูงอายุของกระทรวงวิทย์ฯ และศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) เพื่อเป็นต้นแบบ Wellness City ของประเทศและขยายผลไปยังรูปแบบอื่นๆ เสนอที่ประชุมพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอเรื่องการขยายเวลาพำนักในประเทศไทยรวม 90 วัน ในประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มประเทศ CLMVได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และสาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับผู้ป่วยและผู้ติดตามอีก 4 คน เพื่อให้มีโอกาสได้ท่องเที่ยวในประเทศไทยได้นานขึ้น สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศมากขึ้น โดยที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 1 พ.ย.59 ได้อนุมัติแล้ว