ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมว.สธ.ติดตามการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 20 ปี เขตสุขภาพที่ 3 ตั้งเป้าพัฒนา รพ.สวรรค์ประชารักษ์ เป็นศูนย์เชี่ยวชาญรักษาโรคมะเร็งและหัวใจครบวงจร ดูแลประชากร 3 ล้านคน

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 ที่ จ.อุทัยธานี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เขตสุขภาพที่ 3 และคณะผู้บริหาร ตรวจเยี่ยมติดตามการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3 พร้อมตรวจเยี่ยมคลินิกหมอครอบครัวเมืองอุทัย 

นพ.ปิยะสกล ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข เร่งรัดการนำยุทธศาสตร์ 20 ปี ด้านสาธารณสุขสู่การปฏิบัติ ได้มอบหมายให้ผู้บริหารตรวจเยี่ยมติดตามการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ฯ ระดับเขตสุขภาพทั้ง 12 เขตสุขภาพ โดยให้ทุกเขตสุขภาพจัดทำแผนยุทธศาสตร์ฯ และแปลงไปสู่การปฏิบัติที่สอดคล้องกับบริบท ปัญหาสุขภาพของแต่ละพื้นที่ มีแผนและผลสำเร็จของการดำเนินงานเป็นระยะ 1 ปี 5 ปี และ 20 ปี

สำหรับเขตสุขภาพที่ 3 ประกอบด้วย จังหวัดพิจิตร นครสวรรค์ กำแพงเพชร ชัยนาท และอุทัยธานี  มีประชากร 3 ล้านคน เป็นผู้สูงอายุร้อยละ16.89 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ ปัญหาสุขภาพที่สำคัญคือ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูงพบร้อยละ 16.36 พบผู้ป่วยมะเร็ง 2,100 คนต่อปี โรคหัวใจ 1,500 คนต่อปี อัตราการรอคอยรังสีรักษาในผู้ป่วยมะเร็งมากกว่า 6 สัปดาห์ ร้อยละ 49  เพื่อรองรับปัญหาสุขภาพในพื้นที่ มีแผนที่จะพัฒนายกระดับให้โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ให้เป็นศูนย์เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคมะเร็งและโรคหัวใจครบวงจร ดูแลประชาชนใน 5 จังหวัดของเขตสุขภาพ

ทั้งนี้ เขตสุขภาพที่ 3 ได้นำแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีของกระทรวงสาธารณสุข แปลงสู่การปฏิบัติภายใต้ยุทธศาสตร์การทำงาน 4 ด้าน ตั้งเป้าทำงานให้สำเร็จในระยะ 3 เดือนและ 6 เดือน ดังนี้

ยุทธศาสตร์ที่ 1 ด้านการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค จะพัฒนาคลินิกสุขภาพเด็กดี ศูนย์เด็กเล็กคุณภาพ พัฒนาการฝากครรภ์และห้องคลอดคุณภาพ ดำเนินการการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาวร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  

ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาระบบบริการ ตั้งเป้าพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลชุมชนเครือข่าย ให้สามารถดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองระยะฟื้นฟู เปิดบริการรังสีรักษา มีทีมหมอครอบครัวร้อยละ 50 ของเป้าหมาย

ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาคน จัดทำแผนอัตรากำลังคนทุกวิชาชีพในโรงพยาบาล หน่วยบริการปฐมภูมิ จัดทำแผนพัฒนาศักยภาพบุคลากรตามแผนพัฒนาระบบบริการ และพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้มีความสุข ด้วยค่านิยม MOPH บวก 3R คือใช้ข้อมูลในการทำงาน แข่งขันกันทำดีและมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมายไปประยุกต์ใช้

ยุทธศาสตร์ที่ 4 ด้านการพัฒนาระบบบริหารจัดการ มีการจัดซื้อยาและวัสดุการแพทย์ร่วมในระดับเขตและแก้ปัญหาภาวะวิกฤตทางการเงินของหน่วยบริการ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของเขตสุขภาพที่ 3 คือ “เป็นองค์กรส่งเสริมระบบสุขภาพยั่งยืน ประชาชนมีสุขภาพดีและเจ้าหน้าที่มีความสุข”

โดยในปี 2559 มีผลงานเด่น ได้แก่ การจัดตั้งคลินิกชะลอไตเสื่อม “คลองขลุงโมเดล” ในโรงพยาบาลทุกแห่ง ลดอัตราการระบาดของโรคไข้เลือดออกจากอันดับ 1 ของประเทศในต้นปี เป็นอันดับที่ 11 ในปัจจุบัน การจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมจากเหมืองแร่ทองคำ ที่ จ.พิจิตร จนเป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่ และมีการติดตั้งและใช้โปรแกรมไทยรีเฟอร์ ส่งต่อผู้ป่วยครบทุกโรงพยาบาล