ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เป็นที่ทราบกันว่า การเข้าถึงบริการสุขภาพของรัฐสำหรับผู้อพยพในสหรัฐอเมริกานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดาย แม้ผู้คนเหล่านี้ต่างทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้แก่เมืองและรัฐที่พวกเขาอาศัยอยู่คิดเป็นมูลค่าไม่น้อย

เว็บไซต์เดอะนิวยอร์กไทมส์ เผยว่ากฎหมายประกันสุขภาพ (Affordable Care Act) ทำให้ชาวอเมริกันราว 20 ล้านคนเข้าถึงประกันสุขภาพ เว้นก็แต่กลุ่มผู้อพยพไร้เอกสารสิทธิเพียงกลุ่มเดียว ทว่าสมาชิกสภาของรัฐแคลิฟอร์เนียมีแผนแก้ไขปัญหานี้ด้วยการเปิดทางให้ผู้อพยพสามารถซื้อประกันสุขภาพของรัฐได้โดยไม่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลกลาง ซึ่งนับเป็นแนวคิดที่ดีและควรได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา

กล่าวคือ กฎหมายประกันสุขภาพในสหรัฐอเมริกาห้ามผู้อพยพที่ขาดเอกสารสิทธิซื้อประกันสุขภาพของรัฐบาลกลางหรือของรัฐทั้งที่ได้รับหรือไม่ได้รับเงินอุดหนุน ในขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐแคลิฟอร์เนียเผยว่าจะเดินหน้าผลักดันการยกเว้นเงินอุดหนุนโดยอาศัยช่องทางกฎหมายซึ่งเปิดกว้างให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถศึกษาแนวทางต่างๆ

ในเบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้อพยพที่ขาดเอกสารสิทธิราวร้อยละ 30 จากตัวเลข 2 ล้านคนที่มีคุณสมบัติสอดคล้องตามเกณฑ์ ขณะที่สมาชิกสภารัฐแคลิฟอร์เนียคาดว่าจะมีผู้เข้าชื่อขอประกันสุขภาพภายในปีแรกราว 17,000 คน หากรัฐบาลโอบามาอนุมัติยกเว้นเงินอุดหนุนตามที่รับปากว่าจะนำเรื่องเข้าสู่วาระพิจารณา

ผู้ป่วยรอพบแพทย์ในคลินิกแห่งหนึ่งที่นครลอสแอนเจลิสซึ่งให้บริการผู้อพยพไร้เอกสารสิทธิจำนวนมาก ภาพ: โมนิกา อัลไมดา/เดอะนิวยอร์กไทมส์   

เดอะนิวยอร์กไทมส์ เผยอีกว่า สำหรับผู้อพยพที่ขาดเอกสารสิทธิสามารถซื้อประกันได้โดยตรงจากผู้รับประกัน แต่แผนประกันสุขภาพดังกล่าวมักไม่ครอบคลุมเท่าประกันในตลาดประกันสุขภาพคัฟเวอร์แคลิฟอร์เนีย (Covered California) ของรัฐแคลิฟอร์เนีย

โดยมองกันว่าการยกเว้นเงินอุดหนุนจะส่งผลดีต่อครอบครัวที่สมาชิกบางคนขาดเอกสารสิทธิ ซึ่งบางส่วนยังคงไม่ยอมซื้อประกันจากตลาดประกันสุขภาพเนื่องจากเกรงว่าอาจเสี่ยงโดนเนรเทศออกจากสหรัฐอเมริกา และเห็นได้ว่าเสียงวิจารณ์ถึงแผนปฏิรูปประกันสุขภาพของรัฐแคลิฟอร์เนียดังกล่าวมาจากเหตุผลที่คลุมเครือ เพราะผู้ที่ได้ประกันสุขภาพโดยไม่ได้รับการอุดหนุนจะต้องจ่ายเงินซื้อประกันเต็มจำนวน ในขณะที่การอนุญาตให้ผู้อพยพใช้เงินของตนเองซื้อประกันสุขภาพกลับเป็นประโยชน์ทั้งต่อรัฐและรัฐบาลท้องถิ่นในแง่ลดอุปสงค์ต่อการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยอนาถาอันเป็นที่พึ่งสุดท้ายของผู้ไร้ประกันสุขภาพ

นโยบายผลักดันการยกเลิกเงินอุดหนุนซื้อประกันสุขภาพสำหรับผู้อพยพไร้เอกสารสิทธิได้รับความเห็นชอบอย่างท่วมท้นจากสภาท้องถิ่นของรัฐแคลิฟอร์เนีย และเมื่อปีก่อนรัฐแคลิฟอร์เนียได้ขยายบริการภายใต้การอุดหนุนให้ครอบคลุมเด็กที่ขาดเอกสารสิทธิภายใต้โครงการเมดิ-แคล (Medi-Cal) โดยมีเด็กที่เข้าร่วมโครงการกว่า 135,000 คน โครงการนี้ในอีกทางหนึ่งยังเป็นการสนับสนุนให้พ่อแม่นำบุตรมารับวัคซีนและบริการด้านการป้องกันโรคอันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณสุขในภาพรวมในแง่ลดการระบาดของโรคติดเชื้อ ซึ่งนอกจากรัฐแคลิฟอร์เนียแล้วยังมีบางรัฐให้บริการสุขภาพครอบคลุมไปถึงเด็กที่ขาดเอกสารสิทธิ อาทิเช่น รัฐอิลลินอยส์ แมสซาชูเซตส์ และนิวยอร์ค

กล่าวได้ว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากนโยบายที่สนับสนุนให้ผู้อพยพเข้าถึงบริการสุขภาพไม่ได้จำกัดเฉพาะแต่มิติด้านงบประมาณและสาธารณสุข หากยังเกี่ยวเนื่องไปถึงประเด็นเรื่องความเท่าเทียมด้วย ดังที่นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่าเงินที่นำมาสนับสนุนโครงการประกันสุขภาพและประกันสังคมนั้นส่วนใหญ่เป็นรายได้ที่มาจากผู้อพยพ ขณะที่คนกลุ่มนี้กลับได้รับผลตอบแทนจากโครงการเหล่านี้น้อยกว่า สอดคล้องกับผลการศึกษาวิจัยรายงานในวารสารเฮลธ์แอฟแฟร์ (Health Affairs) เมื่อปี 2556 ซึ่งระบุว่าผู้อพยพป้อนเงินเข้าสู่โครงการประกันสุขภาพกว่า 115,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.99 ล้านล้านบาท) ในช่วงระหว่างปี 2545-2552 อันเป็นตัวเลขที่สูงกว่ามูลค่าผลตอบแทนที่ผู้อพยพได้รับจากโครงการดังกล่าว

เรียบเรียงจาก เว็บไซต์ เดอะนิวยอร์กไทมส์  : California’s Nifty Idea on Immigrant Health Care