ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

จี้ ผบก.ทล.รับมืออุบัติเหตุจากสุราช่วงปีใหม่ วอนกำชับทุกพื้นที่คุมเข้มกม.หนุนเมาขับจับยึดรถ ด้านผบก.ทล.ย้ำตรวจจับห้ามดื่มบนรถ ขายไหล่ทาง

เมื่อเร็วๆ นี้ ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) พร้อมด้วย เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กว่า30คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ พลตำรวจตรีสมชาย เกาสำราญ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อเข้มงวด ตรวจจับ กำชับทุกพื้นที่ บังคับใช้กฎหมายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถขณะอยู่บนทาง และห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนถนนและไหล่ทาง และขอสนับสนุนมาตรการเมาขับ จับยึดรถและใบขับขี่ตามนโยบายรัฐบาล ทั้งนี้เครือข่ายฯได้มอบสื่อรณรงค์ปีใหม่ “กลับบ้านปลอดภัย มีวินัย มีน้ำใจ ไม่ดื่ม ไม่ซิ่ง”เป็นแผ่นป้ายไวนิล จำนวน400 ผืนและสติกเกอร์รณรงค์ อีกกว่า20,000 ชิ้น ให้ตำรวจทางหลวงด้วย

ภก.สงกรานต์ กล่าวว่า ปีใหม่นี้ประชาชนส่วนใหญ่ออกเดินทางกลับภูมิลำเนา ทำให้จำนวนรถที่สัญจรบนท้องถนนเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปเกี่ยวข้องในการเดินทาง และการเฉลิมฉลอง ทำให้เกิดอุบัติเหตุเจ็บตาย สะท้อนจากสถิติการเสียชีวิตบนถนนของไทยเป็นอันดับ2ของโลก อีกทั้งสถิติช่วง7วันอันตรายในปี2558มีผู้บาดเจ็บ3,117ราย เสียชีวิต341ราย ขณะที่ปีใหม่2559มีผู้บาดเจ็บ3,505 เสียชีวิต380ราย สาเหตุสำคัญมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

“ทุกปีรัฐบาลและทุกภาคส่วนจะร่วมรณรงค์ พยายามบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ แต่สถิติอุบัติเหตุ ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง แม้ปัจจุบันมีกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ที่ก้าวหน้าในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น การห้ามดื่มบนรถขณะรถอยู่บนทาง การห้ามขายบนทาง บนถนน ริมทาง ไหล่ทาง ฟุตบาท แต่ก็พบว่ายังขาดการบังคับใช้อย่างจริงจัง และทุกๆปีเครือข่ายฯจะได้รับแจ้งจากพื้นที่ว่ามีพ่อค้าหัวหมอตั้งโต๊ะขายริมถนนใกล้ทางเข้าออกปั๊มน้ำมัน บนถนนสายหลักที่การจราจรแออัด ซึ่งแม้มีกฎหมายห้ามแต่กลับไม่มีผลในทางปฏิบัติ" ภก.สงกรานต์ กล่าว

ภก.สงกรานต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อป้องกันความสูญเสียจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง เครือข่ายฯจึงมีขอเสนอต้อกองบังคับการตำรวจทางหลวงดังนี้

1.นอกเหนือจากการทำผิดกฎหมาย เมาแล้วขับแล้ว โปรดให้ความสำคัญในการบังคับใช้กฎหมายลูกซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ที่มีผลบังคับใช้ เช่น ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถขณะอยู่บนทาง ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี  เรื่องกำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง ไหล่ทาง ริมถนน ฟุตบาท ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน6เดือน ปรับไม่เกิน10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 

2.เครือข่ายสนับสนุนมาตรการของรัฐบาล และ คสช.ที่ให้เข้มงวดเรื่องปัญหาเมาแล้วขับโดยมีนโยบายการยึดรถ ยึดใบขับขี่  ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าทำให้ผู้ที่จะขับรถ มีความตระหนักเพิ่มขึ้น ถ้ามีการบังคับใช้อย่างจริงจัง และประชาสัมพันธ์ให้ทราบในวงกว้าง จะลดจำนวนอุบัติเหตุได้มากขึ้น 

3.เครือข่ายขอขอบคุณ กองบัญชาการตำรวจทางหลวง ที่สนับสนุนการรณรงค์ “กลับบ้านปลอดภัย มีวินัย มีน้ำใจ ไม่ดื่มไม่ซิ่ง”และขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติภารกิจเพื่อความสุขความปลอดภัยของประชาชนช่วงปีใหม่ในปีนี้ด้วย 

ด้านพลตำรวจตรีสมชาย เกาสำราญ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง  กล่าวภายหลังจากรับหนังสือจากเครือข่ายฯว่า ตำรวจทางหลวงเตรียมกำลังและสั่งกำชับเจ้าหน้าที่เพื่อรับมือปีใหม่ไว้แล้ว ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากประชาชนให้เคารพกฎหมาย โดยเฉพาะการห้ามดื่มบนรถ บนถนน ห้ามขายสุราตามไหล่ทาง ปั๊มน้ำมันอย่าแอบขาย อย่าลืมว่าสุราไม่สามารถดื่มขายในที่สาธารณะได้ นอกจากนี้เราจะสร้างการรับรู้กับสังคมเพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างเต็มที่  

เรื่องที่เกี่ยวข้อง